Lingfield Point

PANASONIC เร่งการประหยัดพลังงานในคอลเซ็นเตอร์ของ CAPITA

เมื่อ Capita บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการกระบวนการทางธุรกิจและเอาท์ซอร์สตัดสินใจก่อตั้งคอลเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในย่านธุรกิจ Lingfield Point และความยั่งยืนมีบทบาทสำคัญต่อการปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้รวมถึงระบบทำความร้อนและทำความเย็น ซึ่ง Quinnross ที่ปรึกษาด้าน M&E ได้ระบุระบบของ Panasonic ที่ประหยัดพลังงานและมีเทคโนโลยีการควบคุมขั้นสูง

Lingfield Point เดิมสร้างขึ้นในปี 1946 โดยเป็นโรงงานผลิตผ้าขนสัตว์ และปัจจุบันเป็นศูนย์ธุรกิจและนวัตกรรมในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยมีบริษัทและองค์กรต่างๆ กว่า 30 แห่งตั้งอยู่ที่นั่น Capita เลือกที่จะเปลี่ยนโกดังขนาดใหญ่ดั้งเดิมแห่งหนึ่งให้เป็นคอลเซ็นเตอร์ไฮเทคที่ทันสมัยซึ่งสามารถรองรับพนักงานได้ 500 คน Quinnross ได้ติดตั้งระบบ GHP ในโครงการอื่นที่ Lingfield Point แล้วด้วยความสำเร็จอย่างมาก โดยได้รับรางวัลระดับภูมิภาคและระดับประเทศหลายรางวัล ดังนั้นเมื่อต้องออกแบบระบบทำความร้อนและทำความเย็นให้กับคอลเซ็นเตอร์ของ Capita ทางเลือกจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย Quinnross ทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่าย ESS ได้ระบุระบบ Panasonic ECO G 3 ทิศทาง ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากปริมาณแก๊สจำนวนมากในไซต์งาน และมีชื่อเสียงเรื่องประสิทธิภาพด้านพลังงานและการติดตั้งง่าย

Derek Quinlan จาก Quinnross กล่าวว่า “เราได้ดำเนินโครงการที่ยอดเยี่ยมด้วยระบบ GHP ของ Panasonic เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และด้วยการมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนของ Capita เราคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้เทคโนโลยีนี้อีกครั้ง” “ปั๊มความร้อนแบบใช้แก๊ส ECO G ของ Panasonic ตอบโจทย์เหล่านั้นทั้งหมดให้เรา ได้แก่ ติดตั้งง่าย ทรงพลังมาก และมีประสิทธิภาพมากด้วย”

ระบบ ECO G 3 ทิศทางของ Panasonic ใช้แก๊สแทนไฟฟ้าเพื่อให้พลังงานในการดูดอากาศเข้าและสร้างความร้อน ซึ่งลดภาระของแหล่งจ่ายไฟที่ไซต์งานของ Capita ลงอย่างมาก ช่วยให้สามารถใช้ไฟสำหรับระบบอื่นที่จำเป็นต้องติดตั้งเพื่อให้คอลเซ็นเตอร์เป็นสถานที่ทันสมัยและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ECO G 3 ทิศทางยังสามารถทำงานได้โดยใช้แก๊ส LPG ซึ่งหมายความว่าหากมีการหยุดชะงักของแหล่งจ่ายแก๊สหลัก อุปกรณ์นี้จะยังคงทำงานได้ ความต้องการไฟฟ้าสำหรับการทำความร้อนและทำความเย็นจะลดลงไปอีกโดยใช้ ECO G 3 ทิศทางของมอเตอร์กระแสตรง ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องลง

Capita กำลังวางแผนสำหรับพนักงาน 500 คนในคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการระบบที่สามารถรองรับความต้องการต่างๆ ที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน และยังรับมือกับความต้องการด้านการทำความร้อนและทำความเย็นในระดับสูงอีกด้วย ดังนั้น Quinnross จึงระบุชุดอุปกรณ์ Panasonic ECO G 3 ทิศทาง 11 ชุด ซึ่งสามารถให้การทำความร้อนและทำความเย็นพร้อมกันได้ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพของระบบที่ต้องการ และเพื่อเชื่อมต่อกับชุดอุปกรณ์ภายในอาคารให้มากที่สุดที่เป็นไปได้ ด้วยการติดตั้งชุดอุปกรณ์ภายในอาคารกว่า 150 ชุดในห้องประชุมและพื้นที่เปิดโล่ง Quinnross ได้ช่วยให้มีการทำความร้อนและทำความเย็นในพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากสามารถควบคุมกลุ่มของชุดอุปกรณ์แยกกันได้ ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายยิ่งขึ้นสำหรับพนักงานด้วยการปรับระบบตามความต้องการของตน

Quinnross ได้ระบุระบบควบคุมที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทำความร้อนและทำความเย็นให้สูงขึ้น มีการติดตั้งรีโมตคอนโทรลของเครื่องตั้งเวลาแบบใช้สาย 11 ตัวเพื่อควบคุมการทำงานของชุดอุปกรณ์ ECO G 3 ทิศทาง และควบคุมทิศทางการไหลของอากาศ อุณหภูมิ และความเร็วพัดลม นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง CZ-256ESMC2 ตัวควบคุมหน้าจอสัมผัสอัจฉริยะของ Panasonic เพื่อเชื่อมต่อกับ BMS ของไซต์งานด้วย ซึ่งจะผสานรวมฟังก์ชันการทำงานเพื่อตั้งโปรแกรมตารางเวลาการทำงาน ปัจจัยควบคุมต่างๆ เช่น ความเร็วพัดลม อุณหภูมิ และการทำงานที่มีความสามารถในการควบคุมชุดอุปกรณ์ 256 ชุด ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในโครงการระดับนี้ CZ-256ESMC2 ยังอนุญาตระดับการห้ามที่แตกต่างกันเพื่อให้พนักงานได้รับสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบางอย่าง เช่น อุณหภูมิ แต่ไม่ใช่การตั้งค่าอื่นๆ เช่น โหมดการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกรบกวนซึ่งจะส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

ด้วยการติดตั้งระบบ Panasonic ECO G 3 ทิศทาง ทำให้ Capita มั่นใจในการทำความร้อน การทำความเย็น และโซลูชันที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้า และให้สภาพแวดล้อมที่สบายและมีการควบคุมเป็นอย่างดีสำหรับพนักงานของตน