จับภาพทุกช่วงเวลา ด้วยภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม
ภาพถ่ายคมชัดทุกช่วงเวลา— เซนเซอร์ 24.1MP
ขอแนะนำเซนเซอร์ Stacked CMOS sensor รุ่นแรกของ LUMIX*
วิทยาการด้านสีเฉพาะของ LUMIX ภายใต้ปรัชญาการถ่ายภาพ "Capturing It All" ผสานกับ Stacked CMOS sensor ความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซลรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อขยายขอบเขตแห่งการสร้างสรรค์ทั้งในงานภาพนิ่งและวิดีโอ เซนเซอร์นี้มาพร้อมกับวงจรประมวลผลความเร็วสูงที่ติดตั้งอยู่เหนือและใต้พื้นที่พิกเซล ช่วยให้ได้ภาพคุณภาพเยี่ยมและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 3.5 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า** ส่งผลให้ลดการบิดเบือนจากชัตเตอร์โรลลิ่ง รองรับการถ่ายวิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูงได้อย่างลื่นไหล และยังทำให้ระบบโฟกัสอัตโนมัติทำงานได้รวดเร็วขึ้นถึงประมาณ 1.6 เท่า****
นอกจากนี้ การผสานเซนเซอร์เข้ากับเครื่องมือประมวลผลภาพประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยี L² ยังช่วยยกระดับความสามารถของกล้องให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด สมจริง และมีความละเอียดสูง พร้อมทั้งขยายช่วงการรับแสงให้กว้างขึ้น
*ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2025 ในบรรดากล้องดิจิตอลของ Panasonic
**เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอล Panasonic รุ่น DC-S5M2 ภาพนี้ถ่ายในโหมดถ่ายภาพนิ่งในครั้งเดียวโดยใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
***เมื่อตั้งค่าอัตราเฟรมของ LVF เป็น 120 fps เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอล Panasonic รุ่น DC-S5M2
ระบบประมวลผลภาพที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงสุดของเซนเซอร์
ด้วยความเร็วในการประมวลผลที่เหนือชั้น ทำให้สามารถดึงศักยภาพเต็มที่จากเซนเซอร์ภาพรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้น ทำให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัด พร้อมรายละเอียดและพื้นผิวที่สมจริง ระบบประมวลผลรายละเอียดอัจฉริยะและการลดสัญญาณรบกวนขั้นสูงทำให้ได้คุณภาพภาพที่ยอดเยี่ยม ความไวแสงสูง และการถ่ายทอดสีที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังรองรับการประมวลผลความเร็วสูงของวิดีโอความละเอียดสูงแบบ Open Gate 6K 30p (อัตราส่วน 3:2) และ 5.1K 60p (อัตราส่วน 3:2) รวมถึงฟอร์แมตวิดีโอความเร็วสูงอย่าง C4K/4K 120p และ FHD 240p อีกด้วย
การแสดงออกของโทนสีที่พัฒนาเพิ่มขึ้นพร้อมรองรับไฟล์ RAW ขนาด 14-bit
ด้วยความสามารถในการอ่านข้อมูลที่รวดเร็วของเซนเซอร์รุ่นใหม่ กล้องจึงรองรับการบันทึกไฟล์ RAW แบบ 14-bit ได้ในทุกโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่อง* ซึ่งไฟล์ RAW 14-bit นี้มีระดับการไล่โทนสีถึง 16,384 ระดับ มากกว่าระดับ 4,096 ของไฟล์ RAW 12-bit บิตถึงสี่เท่า การเพิ่มขึ้นของระดับโทนสีนี้ช่วยลดการเกิดรอยต่อของโทนสีอย่างชัดเจนเมื่อมีการปรับแต่งภาพในขั้นตอนหลังการถ่าย และยังช่วยเก็บรายละเอียดทั้งในส่วนที่สว่างจัดและเงามืดได้อย่างครบถ้วน ส่งผลให้ภาพถ่ายมีการไล่ระดับสีที่นุ่มนวลและช่วงการรับแสงที่กว้างขึ้น
*บันทึกในรูปแบบ 12-bit เมื่อเลือกโหมด Speed Priority ในโหมด SH Burst Shooting
V-Log/V-Gamut 15 สต็อป*
LUMIX S1II รองรับการบันทึกภาพด้วยโปรไฟล์ V-Log/V-Gamut ที่มอบช่วงไดนามิกสูงถึง 15 สต็อป* ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีในกล้อง LUMIX ช่วยให้กล้องสามารถจัดการกับสภาพแสงที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นฉากที่มีการผสมผสานระหว่างแสงในร่มกับแสงแดดโดยตรง โดยยังคงรักษารายละเอียดทั้งในส่วนของจุดสว่างและส่วนมืดได้อย่างครบถ้วน
*เปิดใช้ Dynamic Range Boost: 15 สต็อป ปิดใช้ Dynamic Range Boost: 14+ สต็อป
การแสดงสีที่เหนือชั้นของ LUMIX
สไตล์ภาพถ่าย
โหมดมาตรฐานถือเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาการสร้างภาพของ LUMIX ภายใต้แนวคิด "Capturing It All." ที่เน้นการถ่ายทอดวัตถุอย่างแม่นยำและสมจริง พร้อมสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างสีสันของหน่วยความจำ และการแสดงผลภาพ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกปรับแต่งสไตล์ภาพถ่ายได้หลากหลายตามลักษณะของฉากและความตั้งใจสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นโทนขาวดำ สีสดใส โทนสีธรรมชาติ หรือสไตล์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมทั้งปรับระดับคอนทราสต์และความอิ่มตัวของสีได้อย่างอิสระ เพื่อให้ภาพถ่ายสะท้อนความต้องการและรสนิยมส่วนบุคคลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
LEICA ขาวดำ
Leica มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพภาพที่ยอดเยี่ยม และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกในเรื่องการถ่ายทอดภาพและการแสดงออกที่โดดเด่น ด้วยความร่วมมือทางเทคโนโลยี L² เราได้เรียนรู้ปรัชญาการสร้างภาพอันทรงคุณค่าที่ Leica สั่งสมมาตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน และตระหนักว่าโหมดนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบใหม่ของกล้อง LUMIX ที่โดดเด่นด้วยความแตกต่างอย่างลึกซึ้งระหว่างโทนสีขาวและดำ
･ เมื่อเปรียบเทียบกับโหมด L.Monochrome D ของ LUMIX แล้ว Leica Monochrome จะให้ภาพที่มีความสว่างบริเวณไฮไลท์มากกว่า โดยภาพขาวดำที่ได้มักจะดูแข็งแกร่งและทรงพลัง
รองรับการบันทึกแบบ HEIF เป็นครั้งแรกของ LUMIX*
นอกจากการบันทึกไฟล์ในรูปแบบ JPEG และ RAW แบบเดิมแล้ว กล้องรุ่นนี้ยังรองรับการบันทึกไฟล์แบบ HEIF ในรูปแบบ 4:2:0 10-bit ด้วยการไล่ระดับโทนสีแบบ 10-bit ที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ไฟล์ HEIF มีประสิทธิภาพในการบีบอัดสูงกว่า JPEG อย่างชัดเจน พร้อมรองรับการถ่ายภาพแบบ HLG (Hybrid Log-Gamma) ที่เมื่อแสดงผลบนหน้าจอ HDR จะให้ภาพที่มีความสว่างและการไล่ระดับสีอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้คุณได้รับประสบการณ์ภาพที่ใกล้เคียงกับการรับรู้ของสายตามนุษย์มากยิ่งขึ้น
*ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2025 ในบรรดากล้องดิจิตอลของ Panasonic
ภาพถ่ายความละเอียดสูงพิเศษ 96MP
การถ่ายภาพความละเอียดสูงโดยถือกล้องในมือ
กล้องรุ่นนี้มาพร้อมโหมดความละเอียดสูง (Hi-Resolution Mode) ที่ช่วยให้คุณเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (B.I.S.) ที่เลื่อนเซนเซอร์ภาพขณะถ่ายภาพต่อเนื่อง จากนั้นกล้องจะรวมภาพ ทั้งหมดแปดภาพเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ได้ภาพที่มีความละเอียดเทียบเท่าประมาณ 96MP รองรับการบันทึกทั้งไฟล์ RAW และ JPEG รวมถึงการประมวลผลไฟล์ RAW ภายในกล้อง ซึ่งถ่ายทอดรายละเอียดและการแสดงออกในแบบเฉพาะตัวของ LUMIX ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ LUMIX S1II ยังสามารถใช้งานโหมดนี้ได้แม้ถือกล้องด้วยมือเปล่า เพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่สะดวกใช้ขาตั้งกล้อง
การแสดงสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของคุณส่งตรงจากกล้อง
LUT แบบเรียลไทม์
ฟีเจอร์ REAL TIME LUT ช่วยให้คุณสามารถใช้ LUT (Look-Up Table) ได้โดยตรงภายในกล้อง เพื่อแสดงสีสันและโทนภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณยังสามารถสร้าง LUT ในแบบของคุณเองได้อย่างอิสระ กล่าวได้ว่า ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้คุณสร้างสไตล์ภาพถ่ายได้อย่างไม่จำกัด คุณสามารถนำเข้าไฟล์ LUT ที่ได้จากแอป LUMIX Lab หรือจากผู้สร้างสรรค์ที่คุณชื่นชอบทางออนไลน์ ลงในกล้องเพื่อใช้กับทั้งภาพถ่ายและวิดีโอได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถซ้อน LUT สองชุดเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาสไตล์สีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณได้อย่างลงตัว โดยกล้องรองรับไฟล์ LUT ในรูปแบบ ".VLT" และ ".CUBE"
แอป LUMIX Lab
LUMIX Lab เป็นแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ iOS และ AndroidTM ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อและควบคุมกล้อง LUMIX กับสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากการถ่ายโอนภาพและวิดีโอจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนแล้ว คุณสามารถใช้ LUT (Look-Up Table) ที่มีอยู่แล้ว หรือสร้าง LUT ในแบบของคุณเองผ่านแอปได้โดยตรงโดยใช้ฟังก์ชันการปรับสีของแอปพลิเคชัน
･Google, Android และ Google Play เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC
เร็วที่สุดใน LUMIX S Series*: การถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง AFC ที่ 70 fps**
(ชัตเตอร์ไฟฟ้า)
ด้วยเซ็นเซอร์ stacked CMOS ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ทำให้ LUMIX S1II สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็วถึง 70 เฟรมต่อวินาที** ด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาทิศทางได้ เช่น กีฬาผาดโผนที่มักเล่นกันในเมือง (Urban Sport) สัตว์ป่า หรือยานพาหนะ ช่วยให้คุณจับภาพช่วงเวลาสำคัญได้อย่างแม่นยำ ช่องมองภาพและหน้าจอแสดงผลของกล้องไม่มีแสงสะท้อนรบกวน ทำให้การจัดองค์ประกอบภาพเป็นไปอย่างมั่นใจ พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบภาพถ่ายได้ทันทีหลังการบันทึก
*ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2025 ในบรรดากล้องดิจิตอลของ Panasonic
**เมื่อเลือกโหมด Speed Priority ในโหมด SH Burst Shooting
ถ่ายภาพรัวๆ แบบ AFC ที่ 10 fps (H+)
(ชัตเตอร์กลไก)
นอกจากการถ่ายภาพในโหมด Live View ปกติแล้ว LUMIX S1II ยังมาพร้อมกับโหมด H+ ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องในโหมด AFC โดยสามารถถ่ายได้สูงสุดประมาณ 10 เฟรมต่อวินาทีด้วยชัตเตอร์กลไก ช่องมองภาพและหน้าจอแสดงผลของกล้องไม่มีแสงสะท้อนรบกวน ช่วยให้คุณจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบภาพถ่ายได้ทันทีหลังการบันทึก เพิ่มความคล่องตัวและความแม่นยำในทุกช็อตที่ต้องการเก็บไว้
*บันทึกแบบ 12 บิต
ย้อนเวลากลับไป
การถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้า
วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการคว้าโอกาสทองในการถ่ายภาพ คือการย้อนเวลากลับไปจับภาพช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบอย่างแม่นยำ ฟังก์ชันการถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้าของ LUMIX S1II มีตัวเลือกตั้งเวลาล่วงหน้าได้ถึง 0.5, 1.0 หรือ 1.5 วินาที ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญที่ยากจะคาดเดา ตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่นกน้ำกระทบผิวน้ำ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาในสนาม
ถ่ายภาพที่ไม่สมจริง
การชดเชยแสงที่หลากหลาย
ฟังก์ชันการเปิดรับแสงหลายครั้ง (Multiple Exposure) ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพซ้อนกันได้ในเฟรมเดียวอย่างลงตัว เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ฉากหรือองค์ประกอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างภาพที่ดูเหนือจริงและน่าทึ่งได้อย่างง่ายดาย
การปรับ WB ด้วยพลัง AI
เอไอ-เอดับบลิวบี
ปัจจุบันการประมวลผลไฟล์ RAW ภายในกล้องได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่สามารถปรับสมดุลแสงขาวได้อย่างแม่นยำ ระบบจะวิเคราะห์สภาพแสงในภาพอย่างละเอียด และปรับสมดุลแสงขาวแยกตามแต่ละวัตถุในเฟรม ทำให้มั่นใจได้ว่าภาพที่ได้จะงดงาม สมดุล และคมชัด แม้ในสถานการณ์ที่มีแสงหลายรูปแบบผสมผสานกันอย่างซับซ้อน
1 : การถ่ายวีดิโอ >
3 : AF / กันภาพสั่น >
4 : การควบคุม >
5 : ความน่าเชื่อถือ >