ความน่าเชื่อถือตลอดขั้นตอนการทำงาน

เลนส์ LUMIX S ซีรีส์: การผสมผสานคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัวที่โดดเด่น
เลนส์ในตระกูล LUMIX S Series ถูกออกแบบมาเพื่อมอบคุณภาพยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพสูงในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของผู้สร้างสรรค์งานได้อย่างแท้จริง โดยแบ่งออกเป็นสองซีรี่ส์หลัก ได้แก่ เลนส์ S PRO ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด และเลนส์ S ที่ผสานความคมชัดของภาพกับความคล่องตัวในการใช้งานอย่างลงตัว
ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2025 ชุดเลนส์ประกอบด้วยตัวเลือกถึง 19 รุ่น พร้อมแผนการขยายไลน์อัพเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งซีรีส์ S ยังใช้ระบบ L-Mount ที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์หลากหลายประเภทจากพันธมิตรได้อย่างราบรื่น
・L-Mount เป็นเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายการค้า จดทะเบียน ของ Leica Camera AG

เลนส์ LUMIX S PRO
เพื่อตอบสนองความต้องการของช่างภาพที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกอย่างแท้จริง เลนส์ LUMIX S PRO จึงถูกผลิตภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ พัฒนา ไปจนถึงการผลิต เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการแสดงผลโบเก้ และมิติความลึกอย่างสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ที่ได้คือคุณภาพและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมที่ผ่านการประเมินตามมาตรฐานเข้มงวดเช่นเดียวกับเลนส์ LEICA อย่างครบถ้วน
เลนส์ LUMIX S
นอกจากประสิทธิภาพทางแสงที่ยอดเยี่ยมแล้ว เลนส์ซีรีส์นี้ยังได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว มอบภาพคุณภาพโดดเด่น พร้อมขยายขอบเขตการสร้างสรรค์ของกล้องมิเรอร์เลสในตระกูล S ได้อย่างเต็มที่
ถ่ายภาพได้แม้สภาพสนามไม่เอื้ออำนวย
ดีไซน์กันฝุ่น* / น้ำกระเซ็น* / และความเย็นจัด**
ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานของคุณ แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยบอดี้ของตัวกล้องผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ แข็งแรงทนทาน พร้อมการซีลอย่างแน่นหนาที่ข้อต่อ วงแหวน และปุ่มควบคุมทุกชิ้น เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและละอองน้ำ* ฝาปิดขั้วต่อแยกจากฝาปิดหน้าสัมผัส ช่วยให้คุณเปิดใช้งานเฉพาะส่วนที่จำเป็นเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก นอกจากนี้ กล้องยังถูกออกแบบให้ทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำสุดถึง -10°C** และผ่านการทดสอบว่าทนทานต่ออุณหภูมิสูงถึง 40°C แม้จะติดตั้งพัดลมช่วยระบายความร้อนก็ตาม แต่ก็ยังมีความทนทานสูง

*เมื่อติดตั้งเลนส์กันฝุ่นและละอองน้ำของ Panasonic
*การกันฝุ่นและละอองน้ำไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีความเสียหายหากกล้องสัมผัสฝุ่นผงและน้ำโดยตรง
・เพื่อให้แน่ใจได้ว่าฟังก์ชันกันฝุ่น ละอองน้ำ และความเย็นมีประสิทธิภาพเพียงพอ ควรติดฝาครอบฐานเสียบแฟลชเข้ากับกล้อง นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปิดทางเข้า ฝาปิดขั้วต่อ และฝาปิดหน้าสัมผัสของกล้องอย่างถูกต้อง
**เมื่อติดตั้งเลนส์ Panasonic ที่รองรับอุณหภูมิในการทำงานได้ถึง -10°C
กดชัตเตอร์ประมาณ 400,000 ครั้ง
หน่วยชัตเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุง
ระบบชัตเตอร์นี้ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแกร่งและแม่นยำเป็นพิเศษ ผ่านการทดสอบความทนทานด้วยการกดชัตเตอร์มากถึง 400,000 ครั้ง* ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างชุดชัตเตอร์อย่างเหมาะสมควบคู่กับการใช้มอเตอร์ DC ที่ทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าสูง จึงยังคงรักษาประสิทธิภาพที่เสถียรและแม่นยำแม้ในขณะถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง ตอบโจทย์การใช้งานระดับมืออาชีพได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ในสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบาก
*มาตรฐานการวัดของ Panasonic

กันฝุ่นไม่ให้เกาะเซนเซอร์
ฟังก์ชั่นการปิดชัตเตอร์
คุณสามารถเลือกสถานะการทำงานของม่านชัตเตอร์เมื่อปิดเครื่องได้ โดยการตั้งค่าเป็น "ปิด" ช่วยป้องกันเซ็นเซอร์จากฝุ่นละออง ช่วยให้อุ่นใจได้แม้จะเปลี่ยนเลนส์บ่อยครั้ง

บันทึกได้ตามความประสงค์ของคุณ
ช่องใส่การ์ดคู่
ช่องใส่การ์ดที่ 1 รองรับการ์ด CFexpress Type B ช่วยให้การบันทึกภาพนิ่งความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงด้วยบิตเรตเกิน 800 Mbps รวมถึงฟุตเทจ ProRes RAW HQ ส่วนช่องที่ 2 รองรับการ์ดหน่วยความจำ SD ทั้งนี้ ช่องใส่การ์ดยังติดตั้งตัวล็อคเพื่อป้องกันการเปิดโดยไม่ตั้งใจขณะถ่ายภาพ มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งานภาคสนาม

เหมาะกับการบันทึกและจัดทำวิดีโอที่มีอัตราบิตสูง
การบันทึก SSD ภายนอก
ไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่สามารถบันทึกโดยตรงจากกล้องไปยัง SSD ภายนอกได้ทันที หลังจากบันทึกเสร็จ เพียงเชื่อมต่อ SSD กับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB เพื่อถ่ายโอนข้อมูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลและกระบวนการผลิตหลังการถ่ายทำได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ LUMIX S1II ยังรองรับการถ่ายโอนข้อมูลจาก SSD ภายนอกกลับไปยังการ์ดหน่วยความจำ CFexpress Type B หรือ SD อีกด้วย มอบความยืดหยุ่นและตัวเลือกเวิร์กโฟลว์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้

・ รองรับการใช้งาน SSD ภายนอกขนาดสูงสุด 2 TB ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB Type-C โดยแนะนำให้ใช้ SSD ภายนอกที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดย Panasonic อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าไม่สามารถรับประกันการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ทุกชนิดได้
・ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ SSD ภายนอกจะมีให้ที่เว็บไซต์สนับสนุนต่อไปนี้:
https://panasonic.jp/support/global/cs/dsc/connect/index.html
・ เมื่อบันทึกข้อมูลลงใน SSD ภายนอก จะไม่สามารถบันทึกพร้อมกันไปยังการ์ดหน่วยความจำ SD หรือการ์ด CFexpress Type B ได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบันทึกวิดีโอหลักลงใน SSD พร้อมกับบันทึกไฟล์วิดีโอพร็อกซีไปยังการ์ดหน่วยความจำ SD ได้พร้อมกัน
เข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย
LUMIX S1II รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมหลากหลายประเภท เช่น แฟลช ไฟแฟลช เคส และอุปกรณ์อื่นๆ จากผู้ผลิตบุคคลที่สาม นอกจากนี้ การอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคต* จะเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ Bluetooth® กับกิมบอลของ DJI ด้วย
*การอัปเดตเฟิร์มแวร์ที่มีกำหนดการในช่วงฤดูร้อน ปี 2025

กล้อง LUMIX รุ่นแรก* ที่รองรับมาตรฐาน UVC และ UAC
เป็นครั้งแรกในกล้อง LUMIX* รุ่นนี้ที่รองรับมาตรฐาน UVC (USB Video Class) และ UAC (USB Audio Class) เพียงแค่เชื่อมต่อกล้องกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ก็สามารถใช้งานกล้องเป็นเว็บแคมได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติมใดๆ
นอกจากนี้ กล้องยังรองรับฟังก์ชัน "LUMIX Tether" ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อผ่าน USB และควบคุมการถ่ายภาพจากกล้องหลายตัวพร้อมกันได้อย่างสะดวกสบาย เปิดโอกาสให้คุณใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อทำงานร่วมกัน
*ณ เดือนพฤษภาคม 2025 ในบรรดากล้องดิจิตอลของ Panasonic
เข้ากันได้ดีกับแอปและซอฟต์แวร์เพื่อการผลิตระดับมืออาชีพ
แอปที่มีประโยชน์ใช้ได้ดีในชีวิตประจำวันและที่ทำงาน
แอป LUMIX Lab
แอป LUMIX Lab ช่วยให้คุณถ่ายโอนภาพถ่ายและวิดีโอไปยังสมาร์ทโฟนได้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งสี ครอบตัดภาพ จากนั้นสามารถอัปโหลดผลงานขึ้นโซเชียลมีเดียได้โดยตรง หรือส่งงานด่วนได้ทันที ทั้งหมดนี้ทำได้สะดวกจากตัวกล้อง นอกจากนี้ คุณยังสามารถบันทึกข้อมูลการปรับแต่งสีในรูปแบบ LUT (Look-Up Table) แล้วส่งไปยังกล้องเพื่อใช้ในการถ่ายภาพและวิดีโอได้
คุณสามารถเลือกคลื่นความถี่ Wi-Fi 5GHz เพื่อใช้ในการถ่ายโอนไฟล์ความเร็วสูงได้*
*กฎข้อบังคับท้องถิ่น ฯลฯ อาจห้ามใช้ย่านความถี่ 5GHz นอกตัวอาคาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิภาค

แอปสมาร์ทโฟนสำหรับผู้สร้างวิดีโอ
แอป LUMIX Flow
แอปพลิเคชันนี้รองรับเวิร์กโฟลว์ครบวงจรสำหรับการผลิตวิดีโอในทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การสร้างสตอรี่บอร์ด ไปจนถึงการถ่ายทำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมฟีเจอร์จัดระเบียบไฟล์อัตโนมัติ มอบประสบการณ์การผลิตรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้สร้างวิดีโอเข้าถึงงานสร้างสรรค์ได้ง่ายขึ้นและไม่ซับซ้อน

เข้ากันได้ดีกับ Capture One Tethering
LUMIX S1II รองรับการเชื่อมต่อกับ Capture One ซอฟต์แวร์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในวงการอุตสาหกรรม ด้วยฟีเจอร์เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันในสตูดิโอ ซึ่งช่วยส่งเสริมงานถ่ายภาพทุกประเภท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ ช่วยให้ตัดต่อได้แบบเรียลไทม์ขณะถ่ายภาพผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Capture One ยังรองรับการประมวลผลไฟล์ RAW อย่างละเอียดและจัดการข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลูกค้าที่ซื้อกล้อง LUMIX สามารถทดลองใช้งาน Capture One ได้ฟรีเป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ซอฟต์แวร์นี้มาก่อน

เปิดใช้งานการแบ่งปันบนคลาวด์และการทำงานร่วมกัน
ใช้ได้กับ Adobe Camera to Cloud
กล้อง LUMIX S1II ได้ผสานการทำงานกับ Frame.io Camera to Cloud แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันและร่วมแก้ไขภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านการเชื่อมต่อกล้องกับอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน USB คุณสามารถอัปโหลดภาพทั้งในรูปแบบ JPEG และ RAW รวมถึงวิดีโอพร็อกซีจากกล้องไปยังแพลตฟอร์ม Frame.io ได้โดยตรง การเชื่อมต่อนี้ช่วยให้ผู้แก้ไขและทีมงานสามารถเข้าถึงฟุตเทจหรือภาพได้ทันที ส่งผลให้กระบวนการผลิตเชื่อมโยงกับขั้นตอนหลังการผลิตได้อย่างราบรื่น
・รับประกันคุณสมบัติบางอย่างของ Frame.io Camera to Cloud เท่านั้น
・Frame.io, โลโก้ของ Frame.io และ Camera to Cloud เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ Adobe ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการรับรองสภาพภูมิอากาศ

การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
กลุ่มบริษัทพานาโซนิคมุ่งมั่นสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีขึ้นควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินมาตรการลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ที่มีผลกระทบต่อสังคม พร้อมตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน

ความพยายามเลิกใช้พลาสติกแล้วเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือก
เราได้ลดปริมาณส่วนประกอบในบรรจุภัณฑ์ลงถึง 70% ใช้พลาสติกลดลงถึง 95% และลดการใช้กระดาษรวมถึงกระดาษแข็งลง 67% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ ความจุของกล่องบรรจุภัณฑ์แต่ละกล่องยังลดลงถึง 36% เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเราได้เลือกใช้วัสดุเยื่อกระดาษขึ้นรูปที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตัดสินใจงดใส่อุปกรณ์เสริมทั่วไป เช่น สาย USB และอะแดปเตอร์ AC ในบรรจุภัณฑ์ สำหรับตัวกล้องเองก็ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลด้วย