วิธีการค้นหาและกำจัดกลิ่นอับชื้นในบ้านของคุณ

เชื้อรา จุดรา และความอับชื้นคือกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มักพบในครัวเรือนทั้งหมด

กลิ่นดินในบ้านอาจมีสาเหตุมาจากสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายหลากหลายชนิด ตั้งแต่อาหารที่ขึ้นราในตู้เย็นไปจนถึงเสื้อผ้าเปียกชื้นที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น ปัญหาเรื่องความชื้นที่รุนแรง

หากบ้านของคุณมีกลิ่นเหมือนเชื้อราและถูกปล่อยทิ้งไว้ ปัญหานั้นอาจกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์อันน่ารำคาญใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรงของโครงสร้างบ้านและแม้แต่ปัญหาสุขภาพร่างกาย อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสาเหตุทั่วไปที่ทำให้บ้านของคุณมีกลิ่นเหมือนเชื้อรา ผลเสียของเชื้อรา ห้องที่อับชื้นเป็นอย่างไร และเคล็ดลับง่ายๆ ในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปจากบ้านของคุณ

• กลิ่นเชื้อรา: อะไรคือสาเหตุของกลิ่นอับชื้นในบ้านของคุณ
• วิธีค้นหาแหล่งที่มาของกลิ่นอับชื้น
• วิธีการกำจัดกลิ่นอับชื้นในบ้านของคุณ
• วิธีการกำจัดเชื้อราที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
• เทคโนโลยี nanoe™ X ในบ้านของคุณสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเชื้อรา จุดรา และความอับชื้นได้อย่างไร

เชื้อราคือโครงสร้างที่เกิดจากฟังไจบางชนิด ซึ่งมักพบในอาหาร เช่น ผลไม้แก่จัดและบนพื้นผิวต่างๆ บนพื้นผิว เชื้อรามักจะเจริญเติบโตเป็นวงสีเข้ม เชื้อราต้องการความชุ่มชื้นในการเจริญเติบโต จึงพบได้บ่อยในบริเวณที่เปียกชื้นและมีแสงน้อย เช่น ชั้นใต้ดิน รอบท่อน้ำที่รั่วซึม และบนพื้นผิวที่สามารถดูดซับได้และได้รับความชื้น

เชื้อราผลิตสปอร์เพื่อใช้ในการสืบพันธุ์ สปอร์นี้จะกระจายออกไปในอากาศและอาจทำให้เกิดกลิ่นที่คุณสัมผัสได้ซึ่งคุณอาจเรียกว่ากลิ่น "อับชื้น" หรือกลิ่น "เชื้อรา"

กลิ่นที่เกิดจากเชื้อราในบ้านของคุณอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้โดยการทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกอึดอัด การเจริญเติบโตของเชื้อราอาจทำให้คุณรู้สึกคันจมูก เจ็บคอ ไอ แสบตา และมีผื่นคัน ในกรณีที่รุนแรงและในผู้ที่ไวต่อเชื้อราอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ปัญหาด้านการหายใจ และการติดเชื้อที่ปอด เนื่องจากกลิ่นเชื้อราอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้รู้สึกอึดอัด คุณจึงจำเป็นต้องหากลิ่นนั้นให้พบและกำจัดแหล่งที่มาของกลิ่นออกไปจากบ้านของคุณ

กลิ่นอับชื้นที่เป็นลักษณะเฉพาะของเชื้อรามีสาเหตุมาจากสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการเจริญเติบโต ด้วยเหตุนี้ กลิ่นอับชื้นจึงเป็นตัวบ่งบอกว่าเชื้อราในบ้านของคุณมีชีวิตและกำลังเจริญเติบโต คุณจึงจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาและป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายออกไป

ขั้นตอนแรกคือการระบุที่มาของกลิ่น มาดูกันว่าสถานที่ที่ควรตรวจสอบคือจุดใดบ้าง

ห้องน้ำคือสถานที่หนึ่งที่พบเชื้อราและจุดราได้มากที่สุดในบ้าน สาเหตุหลักเนื่องมาจากระดับความชื้นสูงที่มักพบในห้องน้ำซึ่งมีฝักบัว อ่างน้ำ โถส้วม และอ่างล้างมือที่เราใช้งานทุกวัน

ยิ่งไปกว่านั้น ผ้าเช็ดตัว ม่านกั้นห้องน้ำ ผ้าเช็ดหน้า และแผ่นปูพื้นห้องน้ำมักจะถูกทิ้งไว้ให้เปียกชื้นเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ยังทำให้ห้องมีการระบายอากาศอย่างเพียงพอได้ยาก จึงนำไปสู่การสะสมของความชื้นและกลายเป็นสภาวะที่เหมาะสมสำหรับเชื้อราในการเจริญเติบโตบนเนื้อผ้าหรือพื้นผิวต่างๆ

ใช้น้ำอุณหภูมิ 50°C หรือสูงกว่าชำระล้างบริเวณที่ปนเปื้อนเชื้อราทั้งหมดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป เวลาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจุดคือห้าวินาทีหรือนานกว่านั้น เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้แล้ว ให้คุณขจัดความชื้นทั้งหมดออกไปด้วยผ้าขนหนูหรือยางปาดน้ำ

สาเหตุแรกคือในครัวมักจะมีน้ำปริมาณมากบริเวณรอบอ่างล้างมือและบนพื้นผิวต่างๆ เนื่องจากการทำหก สาเหตุที่สองเกิดจากอาหารที่เก็บไว้ในครัวอาจหมดอายุและกลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา

หากสงสัยว่ากลิ่นเชื้อราอาจจะมาจากห้องครัวของคุณ ให้ลองตรวจดูการรั่วซึมหรือคราบจากความชื้น รวมถึงอาหารขึ้นราที่อยู่บนพื้น ในตู้เย็น และในตู้เก็บอาหาร

เชื้อรามักจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าในบริเวณซอกหลืบต่างๆ ซึ่งมีการระบายอากาศที่ไม่ดีและมักมีความชื้นสะสมอยู่ วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือเปิดหน้าต่างและประตูในห้องดังกล่าวไว้ แต่พัดลมและ/หรืออุปกรณ์ลดความชื้นก็ช่วยได้เช่นกัน

ตู้เก็บของและพื้นที่สำหรับเก็บของมักถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ยังมืดและอาจกักเก็บความชื้นไว้ได้หากมีปัญหาการรั่วซึมหรือความเปียกชื้นบนผนังโดยรอบ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา คุณจึงควรตรวจสอบพื้นที่เก็บของทุกจุดในบ้านหากได้กลิ่นเหมือนดินในบ้านของคุณ

วิธีการปฏิบัติที่ดีอีกข้อหนึ่งคือหลีกเลี่ยงการเก็บเสื้อผ้าปริมาณมากเกินไปไว้ในพื้นที่เก็บของ รวมถึงติดตั้งพัดลมหรืออุปกรณ์ที่คล้ายกันไว้ด้วยเพื่อให้สามารถระบายอากาศได้ดี

การรั่วซึมมักเกิดขึ้นบ่อยกับประตูและหน้าต่างที่เปิดออกไปสู่ด้านนอก ซึ่งอาจทำให้เปียกชื้นและนำไปสู่การเกิดเชื้อราได้ ทางเข้าบ้านจึงมักจะกลายเป็นแหล่งที่มาของกลิ่นอับชื้น ดังนั้นจึงควรตรวจสอบบริเวณรอบๆ ประตูเพื่อดูว่ามีร่องรอยของเชื้อราหรือไม่

ชั้นใต้ดินอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นดินและมีดินอยู่ล้อมรอบ นอกจากนี้ยังมีการระบายอากาศที่ไม่ดีและได้รับแสงจากธรรมชาติในระดับต่ำ (หรืออาจไม่ได้รับแสงเลย) ซึ่งอาจทำให้ชั้นใต้ดินกลายเป็นสถานที่สำหรับการสืบพันธุ์ของเชื้อราและจุดรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสภาพอากาศที่เปียกชื้น ยกตัวอย่างเช่น หลายคนอาจได้กลิ่นอับชื้นในชั้นใต้ดินหลังฝนตก

หากคิดว่าชั้นใต้ดินของคุณอาจมีปัญหาเชื้อรา ให้ลองตรวจสอบผนังและซอกมุมที่มืดสลัวอย่างละเอียดเพื่อดูว่ามีร่องรอยของความเปียกชื้นและเชื้อราที่มองเห็นได้หรือไม่

ฝุ่น สิ่งสกปรก และเศษอาหารคืออาหารสำหรับเชื้อรา ตัวไรนั้นอาศัยอยู่ในฝุ่น ซึ่งมูลและซากไรจะเป็นอาหารของเชื้อรา นอกจากนี้ คราบที่หลงเหลืออยู่จากการทำเศษอาหาร เครื่องปรุง หรือซุปหกไว้จะเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องดูแลรักษาบริเวณต่างๆ ให้สะอาดปราศจากฝุ่นและเศษอาหารอยู่เสมอโดยการทำความสะอาดบ่อยๆ

แม้ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารอาจไม่ใช่สถานที่ที่พบเชื้อราได้ง่ายที่สุด แต่คุณควรตรวจดูให้ละเอียดว่าห้องเหล่านี้เป็นแหล่งที่มาของกลิ่นอับชื้นในบ้านของคุณหรือไม่ เรามักบริโภคอาหารและเครื่องดื่มในห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เมื่อมีพื้นผิวอ่อนนุ่มที่สามารถดูดซับได้ เช่น โซฟา พรม หรือผ้าเช็ดเท้าอยู่ด้วย เชื้อราก็อาจเจริญเติบโตได้

หากมีกลิ่นเชื้อราที่ดูเหมือนจะมาจากห้องรับประทานอาหารหรือห้องนั่งเล่นของคุณ ให้ลองหาเศษอาหารและหรือเครื่องดื่มที่ทำหกไว้ รวมถึงรอยเปียกชื้นบนผนังด้วย

ห้องนอนเป็นจุดหนึ่งที่มีโอกาสพบการเจริญเติบโตของเชื้อราได้น้อยกว่า แต่ปัญหาเชื้อราในสถานที่ที่คุณนอนหลับอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบด้วย ตรวจสอบเชื้อราในห้องนอนของคุณโดยการหาร่องรอยที่มองเห็นได้บนผนัง มุมห้อง และด้านหลังเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นอกจากนี้ให้ลองตรวจสอบเสื้อผ้าที่สกปรกของคุณ หาการรั่วซึมบนเพดาน ท่อน้ำ และเครื่องทำความร้อน รวมถึงรอยเปียกชื้นบนเครื่องตกแต่งบ้านที่อ่อนนุ่ม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

> วิธีการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านของคุณและพักอาศัยอย่างสดชื่น
> เพราะเหตุใดเครื่องปรับอากาศของคุณจึงมีกลิ่นเหม็นและจะแก้ไขได้อย่างไร