
แบตเตอรี่แห้ง
[ทั่วไป]
Q
ความหมายของหมายเลขรุ่นแบตเตอรี่
A
ตัวอักษรตัวแรกในหมายเลขรุ่นของแบตเตอรี่ใช้ระบุประเภทของแบตเตอรี่ ตัวอักษรตัวที่สองใช้ระบุรูปทรง (เช่น R หมายถึงทรงกลม) แบตเตอรี่ที่มีหมายเลขรุ่นขึ้นต้นด้วย LR แสดงว่าเป็นแบตเตอรี่อัลคาไลน์เป็นทรงกลม CR แสดงว่าเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมรูปทรงกลม การเข้าใจหมายเลขรุ่นช่วยให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่ได้ แม้จะดูเหมือนกันจากภายนอก
สัญลักษณ์ |
ชนิด |
สัญลักษณ์ |
ชนิด |
---|---|---|---|
LR |
ถ่านอัลคาไลน์ ถ่านกระดุม |
PR |
แบตเตอรี่แบบซิงค์แอร์ |
R |
ถ่านแมงกานีส |
CR |
แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีสไดออกไซต์ |
FR |
แบตเตอรี่ลิเธียมไอร์ออนซัลไฟด์ |
BR |
แบตเตอรี่ลิเธียมกราไฟท์ฟลูออรีน |
SR |
แบตเตอรี่ซิลเวอร์ออกไซด์ |
HHR, BK |
ถ่านชาร์จนิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ |
Q
ความหมายของรหัส “LR03 – AAA” บนบรรจุภัณฑ์ถ่านไฟฉายของเรา
A
มีการใช้มาตรฐานที่แตกต่างกันในส่วนอื่นๆ ของโลกเพื่อจำแนกขนาดแบตเตอรี่ ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ขนาด 10.5 มม. x 44.5 มม. อาจทำการติดฉลากว่าเป็น LR03 คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอเทคนิกส์ (International Electrotechnical Commission - IEC) หรือ AAA (ตามสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา -ANSI) ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่จำหน่าย ในหลาย ๆ บรรจุภัณฑ์ของแบตเตอรี่ มีมาตรฐานชี้บ่งให้เห็นสองมาตรฐานขึ้นไปในการระบุขนาดของแบตเตอรี่
ถ่านอัลคาไลน์มาตรฐาน IEC |
ถ่านซิงค์คาร์บอนมาตรฐาน IEC |
มาตรฐาน ANSI |
---|---|---|
LR1 |
R1 |
N |
LR03 |
R03 |
AAA |
LR6 |
R6 |
AA |
LR14 |
R14 |
C |
LR20 |
R20 |
D |
Q
ถ่านอัลคาไลน์กับถ่านแมงกานีสต่างกันอย่างไร
A
ถ่านอัลคาไลน์เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามแม้ถ่านแมงกานีสเป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุดในส่วนต่าง ๆ ของโลก แต่ความแตกต่างระหว่างสองประเภทหลัก มีดังนี้:
อัลคาไลน์เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง
ถ่านอัลคาไลน์เหมาะที่สุดสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้กระแสมาก เช่น แฟลชกล้อง หรืออุปกรณ์ที่จ่ายกระแสอย่างต่อเนื่อง เช่น รถบังคับวิทยุ ซึ่งเราได้ปรับเคมีของถ่านอัลคาไลน์ให้เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาพลังงานที่ต้องอาศัยกระแสสูง

อุปกรณ์ที่เหมาะกับถ่านแมงกานีส
ถ่านแมงกานีสถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้งานยาวนานและใช้กระแสเพียงเล็กน้อยเป็นระยะ ๆ เช่น รีโมททีวี หรืออุปกรณ์ที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องอย่างนาฬิกา

Q
พานาโซนิคมีถ่านขนาด LR61/AAAA หรือไม่
A
พานาโซนิคไม่ได้ผลิตถ่านขนาด LR61/AAAA ในขณะนี้
Q
ถ่าน 006P คืออะไร
A
ถ่าน "ทรงเหลี่ยม" ขนาด 9 โวลต์ ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อใช้ในวิทยุทรานซิสเตอร์ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็น PP3 ในหลายที่ในโลกและกำหนดให้เป็น 006P ในญี่ปุ่น ถ่าน PP3/006P ที่เป็นประเภทเฉพาะ อาจถูกระบุเป็นรหัส 6F22 (สังกะสี-คาร์บอน) หรือ 6LR61 (อัลคาไลน์) เป็นต้น
Q
ทำไมถ่านอัลคาไลน์หรือถ่านแมงกานีสจึงไม่แสดงความจุ (mAh)
A
ถ่านชาร์จ ยกตัวอย่างเช่น ถ่านชาร์จพานาโซนิค eneloop จะมีการระบุความจุของแบตเตอรี่ แต่แบตเตอรี่แบบแห้งจะไม่มีการระบุ ถ่านที่สามารถชาร์จไฟได้ สามารถปล่อยประจุความจุได้โดยแทบไม่มีผลต่ออุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน ทำให้สามารถระบุความจุโดยประมาณได้ ในทางกลับกัน ความจุที่สามารถดึงออกมาจากแบตเตอรี่แบบแห้ง เช่น ถ่านอัลคาไลน์ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุความจุของแบตเตอรี่ได้ นี่คือสาเหตุที่ไม่ระบุความจุของแบตเตอรี่
Q
ความจุของแบตเตอรี่แห้งคืออะไร
A
ถ่านชาร์จ ยกตัวอย่างเช่น ถ่านชาร์จพานาโซนิค eneloop จะมีการระบุความจุของแบตเตอรี่ แต่แบตเตอรี่แห้งจะไม่มีการระบุ ถ่านที่สามารถชาร์จไฟได้ สามารถปล่อยประจุความจุได้โดยแทบไม่มีผลต่ออุปกรณ์ที่ใช้งาน ทำให้สามารถระบุความจุโดยประมาณได้ ในทางกลับกัน ความจุที่สามารถดึงออกมาจากแบตเตอรี่แห้ง เช่น ถ่านอัลคาไลน์ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุความจุของแบตเตอรี่ได้ นี่คือ สาเหตุที่ไม่ระบุความจุของแบตเตอรี่ โดยทั่วไป ระยะเวลาการปล่อยประจุจะระบุไว้ในคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในคู่มือการใช้งาน
สำหรับลูกค้าองค์กร
ความจุของแบตเตอรี่แห้งสามารถกำหนดได้ในระดับหนึ่งโดยพิจารณาจากเงื่อนไขในการใช้งาน (การไหลของกระแส เงื่อนไขการเปิด/ปิด ฯลฯ) กราฟต่อไปนี้แสดงตัวอย่างลักษณะของแบตเตอรี่ OEM ความจุโดยประมาณของแบตเตอรี่แห้งสามารถกำหนดได้จากระยะเวลาที่แสดงในกราฟ
สูตรโดยประมาณเพื่อกำหนดความจุของแบตเตอรี่
กระแสไฟฟ้าที่จ่ายออก x ระยะเวลาที่กระแสไฟฟ้าจ่ายออกอย่างต่อเนื่อง = ความจุของแบตเตอรี่ (mAh)
ตัวอย่างลักษณะของการคายประจุ

ถ่านอัลคาไลน์
ตัวอย่างลักษณะของการคายประจุ

ถ่านแมงกานีส
*คุณสมบัติการคายประจุของแบตเตอรี่แห้งในอุตสาหกรรมของเรา
หมายเหตุ: เมื่อใช้แบตเตอรี่แห้งความจุแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ (ระยะเวลาการใช้งาน) อาจแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน กราฟด้านบนเป็นค่าที่อ้างอิงเมื่อใช้แบตเตอรี่ในสภาวะควบคุม และไม่ได้รับประกันความจุ โปรดดูรายละเอียดในแคตตาล็อกแบตเตอรี่แห้งสำหรับการใช้งานทางการค้าของเราประกอบ
[การใช้งาน]
Q
ช่วงอุณหภูมิการทำงานของแบตเตอรี่ที่แนะนำคือเท่าใด
A
อุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมสำหรับแบตเตอรี่แห้งประเภทหลักของพานาโซนิคอยู่ระหว่าง 5 - 45 องศาเซลเซียส ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อาจลดลงหากใช้งานในอุณหภูมิที่อยู่นอกช่วงที่กล่าวมา
[การรั่วซึม]
Q
ข้อควรปฏิบัติหากของเหลวจากแบตเตอรี่โดนผิวหนังหรือเข้าตา
A
อิเล็กโทรไลต์ของถ่านอัลคาไลน์เป็นสารละลายที่มีความเป็นด่างสูง ซึ่งประกอบด้วยโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นหลัก ส่วนอิเล็กโทรไลต์ของถ่านแมงกานีสเป็นสารละลายที่มีความเป็นกรดอ่อน ซึ่งประกอบด้วยซิงค์คลอไรด์หรือแอมโมเนียมคลอไรด์เป็นหลัก หากของเหลวรั่วไหลออกมาและเข้าตาหรือสัมผัสกับผิวหนังจะเป็นอันตรายหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา กรุณาคลิกที่นี่สำหรับวิธีปฏิบัติที่แนะนำหากของเหลวหรือสารที่รั่วไหลจากแบตเตอรี่สัมผัสกับดวงตาหรือผิวหนัง
Q
ควรทำอย่างไรเมื่อมีผงสีขาวออกมาจากถ่านอัลคาไลน์
A
หากพบผลึกและผงสีขาวอยู่บนพื้นผิวของถ่านอัลคาไลน์ สี่งที่รั่วไหลคือโพแทสเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเกิดจากการที่อิเล็กโทรไลต์ (โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์) ทำปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ หากพบในสภาพนี้ ถ่านก้อนนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป โพแทสเซียมคาร์บอเนตเป็นสารด่างที่ละลายน้ำได้ดี และสามารถทำให้เกิดการไหม้เคมีได้หากสัมผัสกับผิวหนัง กรุณาคลิกที่นี่สำหรับวิธีปฏิบัติที่แนะนำหากของเหลวหรือสารที่รั่วไหลจากถ่านสัมผัสกับดวงตาหรือผิวหนัง
Q
อะไรที่เป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่รั่วซึม
A
มีสาเหตุที่เป็นไปได้บางประการสำหรับการรั่วซึมของแบตเตอรี่:
- การรั่วซึมของแบ็ตเตอรี่ที่ยังไม่ได้ใช้
อุณหภูมิสูงและความชื้นสูง (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการออกซิเดชันได้) เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้แบตเตอรี่ที่ไม่ได้ใช้เกิดการรั่วซึม นอกจากนี้ ยังอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรภายนอกอันเนื่องมาจากการสัมผัสกับวัตถุโลหะโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไฟฟ้าลัดวงจรภายในอันเนื่องจากแรงกระแทก
- การรั่วซึมระหว่างการใช้งาน
การชาร์จโดยบังเอิญ: การใส่แบตเตอรี่ผิดทิศทาง (เช่น ต่อขั้วบวกกับขั้วบวก) เป็นสาเหตุหลักของการรั่วซึมของแบตเตอรี่เมื่อใช้งานอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนการเชื่อมต่อของแบตเตอรี่หนึ่งในชุดแบตเตอรี่สามก้อนจะทำให้แบตเตอรี่สองก้อนที่เหลือชาร์จให้กับแบตเตอรี่ที่ถูกเปลี่ยนการเชื่อมต่อ ทำให้เกิดการรั่วซึม
- แบตเตอรี่ลัดวงจร
การลัดวงจรภายในหรือภายนอกทำให้แบตเตอรี่สร้างกระแสไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างฉับพลัน แบตเตอรี่อาจร้อนเกินไปและรั่วไหลหากไม่ถูกตัดการไหลในทันที หากแบตเตอรี่ไม่ได้ติดตั้งอย่างถูกต้อง อาจเกิดการลัดวงจรขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการรั่วซึมแม้ว่าอุปกรณ์จะปิดอยู่ก็ตาม หากวัตถุโลหะสัมผัสกับแบตเตอรี่จะทำให้ขั้วบวกและขั้วลบเชื่อมต่อกันและเกิดกระแสไฟฟ้าสูงหรือร้อนเกินไปจนทำให้เกิดการรั่วซึมได้ ระวังอย่าให้แบตเตอรี่สัมผัสวัตถุโลหะเมื่อใส่เข้าไป
- การใช้แบตเตอรี่ปกกันหลายชนิด
หลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ ประเภท ยี่ห้อ อายุ หรือสภาพต่างกันร่วมกันในอุปกรณ์ เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่แตกต่างกันตามประเภท ยี่ห้อ หรือแม้แต่แต่ละชุดการผลิตแบตเตอรี่ที่เป็นประเภทและยี่ห้อเดียวกัน ความแตกต่างนี้อาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในระหว่างการใช้งาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการปล่อยพลังงานเกินขนาดและการรั่วซึมได้
- การใส่แบตเตอรี่ทิ้งไว้ในอุปกรณ์
เมื่อแบตเตอรี่ถูกทิ้งไว้ในอุปกรณ์ที่ไม่ได้ปิดเครื่องหรือทิ้งไว้เป็นเวลานานในอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน มีโอกาสที่แบตเตอรี่จะหมดและคายประจุมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่รั่วซึมได้
ถ่านชาร์จ
[ทั่วไป]
Q
การใช้ถ่านชาร์จครั้งแรกมีข้อควรระวังอะไรบ้าง
A
ถ่านชาร์จของเราได้รับการชาร์จล่วงหน้ามาจากโรงงานแล้ว แต่เมื่อถึงมือคุณอาจไม่ได้อยู่ที่ความจุ 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานหลังจากซื้อ ควรชาร์จถ่านอีกครั้งในเครื่องชาร์จก่อนใช้งาน เครื่องชาร์จพานาโซนิคบางรุ่นมีฟังก์ชัน Refresh ที่จะคายประจุและชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ซึ่งอาจมีประโยชน์หากคุณไม่ได้ใช้งานแบตเตอรี่เป็นเวลานาน
Q
ถ่านชาร์จสามารถใช้กับไฟฉายกันน้ำได้หรือไม่
A
ห้ามใช้ถ่านชาร์จนิกเกิล-เมทัลไฮดรายด์ในอุปกรณ์ที่มีช่องใส่แบตเตอรี่ปิดสนิท เช่น ไฟฉายกันน้ำหรือไฟฉายใต้น้ำ หากถ่านนิกเกิล-ไฮดรายด์ถูกปล่อยพลังงานในถ่านจนหมดเกลี้ยง จะมีการปล่อยก๊าซไฮโดรเจนออกจากถ่าน ซึ่งไม่เป็นปัญหาในอุปกรณ์ทั่วไปเพราะก๊าซไฮโดรเจนจะกระจายออกทันที แต่ในอุปกรณ์ที่มีช่องแบตเตอรี่แบบปิดสนิท ก๊าซไฮโดรเจนจะไม่สามารถกระจายได้ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการระเบิดหากก๊าซเกิดการติดไฟ
Q
"memory effect" คืออะไร
A
สภาพที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยความจำที่พบในถ่านชาร์จ นิกเกิล-แคดเมียม และ ถ่านชาร์จนิกเกิล-เมทัลไฮดรายด์ ซึ่งทำให้แรงดันไฟฟ้าสูงสุดลดลง แม้ว่าจะยังคงพลังงานของแบตเตอรี่โดยรวมเท่าเดิมก็ตาม สภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อชาร์จแบตเตอรี่ซ้ำ ๆ โดยที่แบตเตอรี่ไม่หมด ทำให้แบตเตอรี่ "จดจำ" ความจุของการใช้งานลดลงได้ ดังนั้น แรงดันไฟฟ้าอาจลดลงก่อนเวลาอันควรในระหว่างการใช้งาน แม้ว่าจะชาร์จถ่านเต็มแล้วก็ตาม เนื่องจากถ่านชาร์จ eneloop มีแรงดันไฟฟ้าในการคายประจุที่สูงกว่าและเสถียรกว่าถ่านชาร์จนิกเกิล-เมทัลไฮดรายด์ทั่วไป จึงรักษาแรงดันไฟฟ้าที่เพียงพอไว้ได้ แม้ว่าจะเกิดผลกระทบต่อหน่วยความจำขึ้น คุณก็สามารถชาร์จใหม่ได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องกังวล นอกจากนี้ เครื่องชาร์จพานาโซนิคบางรุ่นยังมีฟังก์ชัน Refresh ที่จะคายประจุและชาร์จใหม่เพื่อให้ถ่านกลับมาทำงานได้อีกครั้ง
Q
ฟังก์ชัน Refresh ในเครื่องชาร์จบางรุ่นคืออะไร
A
ฟังก์ชันนี้จะลบผลกระทบเรื่อง memory effect จากถ่านชาร์จที่ได้รับผลกระทบจากฟังก์ชัน Refresh โดยจะปล่อยประจุและชาร์จถ่านอีกครั้งเพื่อให้กลับมาทำงานได้ โดยจะติดตั้งในเครื่องชาร์จพานาโซนิคบางรุ่นที่กำหนด
[ความผิดปกติ]
Q
แบตเตอรี่จะร้อนขึ้นขณะชาร์จเป็นเรื่องปกติหรือไม่
A
การมีความร้อนระหว่างการชาร์จถือเป็นเรื่องปกติ ความร้อนของเครื่องชาร์จขึ้นอยู่กับ:
- ประเภทของเครื่องชาร์จที่ใช้ (แบบชาร์จเร็วกับชาร์จปกติ)
- ไม่ว่าจะมีการใช้ฝาครอบป้องกันหรือไม่ก็ตาม
- มีการใช้ที่ครอบ ครอบป้องไว้หรือไม่
- ความจุเริ่มต้นของถ่านที่กำลังชาร์จ
- ระดับความเสื่อมของถ่านและปัจจัยอื่น ๆ
อุณหภูมิของถ่านระหว่างการชาร์จอาจสูงถึง 55 องศาเซลเซียส (ร้อนเมื่อสัมผัส) แต่ไม่ต้องกังวล เพราะที่ชาร์จของเราได้รับการติดตั้งฟังก์ชันที่สามารถปิดการชาร์จ หรือควบคุมอุณหภูมิของถ่านชาร์จได้ทันทีเมื่อมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ถ่านทั่วไป
[ทั่วไป]
Q
ความแตกต่างระหว่าง "ควรใช้ก่อนวันที่ระบุ" และ "วันที่ผลิต"
A
"ควรใช้ก่อนวันที่ระบุ"จะพิมพ์ลงบนถ่านไฟฉายเพื่อชี้บ่งประสิทธิภาพสูงสุดที่รับประกัน หลังจากนั้นประสิทธิภาพจะค่อย ๆ ลดลง แม้ยังไม่เปิดใช้งาน ข้อจำกัดนี้ไม่มีผลกับถ่านชาร์จ เนื่องจากสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาหากมีการชาร์จไฟ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม วันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์จะถูกพิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ของถ่านชาร์จและแบตเตอรี่แห้ง
Q
ทำไมโวลต์มิเตอร์จึงแสดงค่าแรงดันไฟฟ้าเป็นลบเมื่อทำการทดสอบแบตเตอรี่
A
มีเหตุผลที่เป็นไปได้สองประการ ประการแรก ให้ตรวจสอบขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) โดยการวัดด้วยโวลต์มิเตอร์ว่าตรงกันหรือไม่ หากใส่สลับกัน โวลต์มิเตอร์จะแสดงค่าพลังงานในเชิงลบ. ประการที่สอง แบตเตอรี่ของคุณอาจกลับขั้ว ซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่สองก้อนหรือมากกว่านั้นเชื่อมต่อกันในแบบอนุกรม. ภาพแสดงแบตเตอรี่สองก้อนที่เชื่อมต่อกันในแบบอนุกรม แบตเตอรี่ B มีความจุน้อยกว่าแบตเตอรี่ A และอัตราการจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ B จะสูงกว่าแบตเตอรี่ A และอัตราการคายประจุจากแบตเตอรี่ B จะสูงกว่าจากแบตเตอรี่ A กระแสไฟฟ้าจะถูกบีบออกจากแบตเตอรี่ B จนแรงดันไฟลดลงต่ำกว่าศูนย์ และเกิดการกลับขั้ว สิ่งนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง เมื่อใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากันแต่มีประเภท อายุ และสภาพต่างกันร่วมกัน ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่รั่วได้ ควรใช้แบตเตอรี่ใหม่ที่ซื้อพร้อมกันเสมอ

Q
ในระหว่างการใช้งาน น้ำหนักของแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
A
ไม่ น้ำหนักแบตเตอรี่จะไม่เปลี่ยนแปลงระหว่างใช้งาน
Q
ความหมายของวันหมดอายุของแบตเตอรี่
A
เนื่องจากแบตเตอรี่ผลิตไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมี แม้ในสภาพที่ไม่ได้ใช้งานก็ตาม สารเคมีภายในแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพลงอย่างช้า ๆ ตามกาลเวลาและวันที่ที่ระบุว่า "ควรใช้ก่อน" หรือวันที่หมดอายุระบุวันที่ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เรามั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพของแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด
Q
การระบุว่า"ไม่มีการเพิ่มสารปรอท" หมายถึง
A
ถ่านพานาโซนิคแบตเตอรี่ บางรุ่นระบุว่าไม่มีสารปรอท หมายถึงไม่มีการเติมสารปรอทลงในแบตเตอรี่ระหว่างการผลิต
Q
ความหมายของการคายประจุเอง
A
แบตเตอรี่ผลิตไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมี แม้ว่าขั้วแบตเตอรี่จะไม่ได้เชื่อมต่อกัน สารเคมีภายในแบตเตอรี่ก็ยังสามารถมีปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้เกิดการตอบสนองทีละน้อย ซึ่งจะลดพลังงานจากที่ชาร์จเก็บไว้ และลดความจุของแบตเตอรี่ลงทีละน้อย ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า การคายประจุเอง
Q
จะลดการสูญเสียประจุไฟฟ้าที่ค่อย ๆ ลดลงเองเรื่อย ๆ โดยยังไม่ได้เปิดใช้งานได้อย่างไร
A
การคายประจุเองเกิดจากสารเคมีภายในแบตเตอรี่ที่มีปฏิกิริยากัน และขนาดของปฏิกิริยานั้น ๆ ขึ้นอยู่กับสภาพการเก็บรักษาและอุณหภูมิ อุณหภูมิสูงจะทำให้มีอัตราการคายประจุเองสูง ดังนั้นควรเก็บแบตเตอรี่ในที่ที่เย็นและแห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
Q
กำจัดถ่านไฟฉายที่ใช้แล้วอย่างถูกต้องอย่างไร
A
โปรดปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการทิ้งแบตเตอรี่ในพื้นที่ของคุณ ตามร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าบางแห่งมีกล่องทิ้งแบตเตอรี่ ซึ่งจะเก็บรวบรวมแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิลหรือนำไปกำจัดอย่างปลอดภัย ควรใช้เทปปิดขั้วแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง
Q
สามารถชาร์จถ่านอัลคาไลน์หรือถ่านซิงค์-คาร์บอนได้หรือไม่
A
ห้ามชาร์จถ่านอัลคาไลน์หรือซิงค์-คาร์บอนในที่ชาร์จ การทำเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการระเบิด การรั่วไหล ไฟไหม้ หรือระเบิด
แบตเตอรี่ที่แนะนำคือถ่านชาร์จพานาโซนิคและถ่านชาร์จ Eneloop ซึ่งสามารถชาร์จได้อย่างปลอดภัยโดยเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต
Q
ถ่าน 1.5 โวลต์และ 1.2 โวลต์ต่างกันอย่างไร
A
แบตเตอรี่แห้งมีแรงดันไฟฟ้า 1.5 โวลต์ ซึ่งสูงกว่าแรงดันไฟฟ้าจริงที่อุปกรณ์ระบุไว้เล็กน้อย ถ่านชาร์จ Eneloop มีแรงดันไฟฟ้า 1.2 โวลต์ แม้ว่าแรงดันไฟฟ้าของถ่านชาร์จจะต่ำกว่าแบตเตอรี่แห้ง แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัลไฮดราย ที่ชาร์จได้สามารถใช้แทนแบตเตอรี่แห้งได้ทุกที่ อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังเป็นพิเศษที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะแบตเตอรี่แห้ง เช่น อุปกรณ์ที่มีช่องใส่แบตเตอรี่แบบสุญญากาศ
Q
เคล็ดลับในการเก็บรักษาแบตเตอรี่
A
คำแนะนำในการจัดเก็บเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากแบตเตอรี่:
- เก็บแบตเตอรี่ในบรรจุภัณฑ์เดิมจะดีที่สุด เพราะสามารถเก็บแบตเตอรี่ที่ผลิตในวันที่เดียวกันไว้ด้วยกัน (เพื่อไม่ให้ใช้แบตเตอรี่ที่ต่างล็อตกันในอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่ตั้งใจ) และวิธีเก็บที่เหมาะสมช่วยให้สามารถติดตามวันหมดอายุได้อีกด้วยการเก็บแบตเตอรี่ในบรรจุภัณฑ์เดิมยังช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันและการลัดวงจรจากการสัมผัสกับวัตถุโลหะโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย
- ควรเก็บรักษาแบตเตอรี่ไว้ในอุณหภูมิห้องหรือที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความชื้นสูงหรือถูกแสงแดดโดยตรง ช่วงอุณหภูมิในการเก็บรักษาที่เหมาะสมคือ 10-25 องศาเซลเซียส
- หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส เนื่องจากอาจส่งผลต่ออัตราการคายประจุเองได้
- ในทางทฤษฎี การเก็บรักษาแบตเตอรี่ที่ดี ควรเก็บรักษาในที่เย็น อย่างไรก็ตาม หากเก็บไว้ในพื้นที่ที่มีความเย็น เช่น ตู้เย็น ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่เกิดอุณหภูมิควบแน่นจนเกิดหยดน้ำค้างเกาะ เป็นเหตุให้แบตเตอรี่เกิดความผิดปกติได้
- หากเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่เย็น ควรทิ้งไว้ให้ถึงอุณหภูมิห้องสักครู่ก่อนใช้งาน อย่าใช้วิธีทำให้แบตเตอรี่ร้อนเพื่อสลายความเย็นโดยทันที
Q
หากเก็บแบตเตอรี่เก็บไว้ในตู้เย็น จะทำให้ใช้งานได้นานขึ้นหรือไม่
A
เงื่อนไขการเก็บแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคือในที่อุณหภูมิต่ำและความชื้นต่ำ หลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ในตู้เย็น เพราะจะทำให้มีเกิดการควบแน่นบนพื้นผิวของแบตเตอรี่เมื่อนำออกมา ซึ่งจะทำให้เกิดการคายประจุเองและเกิดสนิมได้
Q
แบตเตอรี่จะคายประจุเองในขณะจัดเก็บหรือไม่
A
แบตเตอรี่เป็นผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายในตามกาลเวลา ในกระบวนการนี้ แบตเตอรี่บางชนิดจะคายประจุเองเล็กน้อยในระหว่างการเก็บรักษา ปรากฏการณ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพการเก็บรักษา การเก็บในที่อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส จะทำให้มีอัตราการคายประจุเองเพิ่มขึ้น
Q
การคายประจุของแบตเตอรี่ ใช้เวลานานเท่าไร
A
ระยะเวลาในการคายประจุของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ แม้ว่าจะมีปริมาณไฟฟ้าเท่าเดิมในแบตเตอรี่ แต่ระยะเวลาในการใช้งานจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์นั้น ๆ ว่าใช้ไฟฟ้ามากหรือใช้ไฟฟ้าน้อย นอกจากนี้ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยังขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่ด้วย โดยทั่วไป ระยะเวลาในการใช้งานจะระบุไว้ในคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลในคู่มือเพิ่มเติมด้วย
Q
การปล่อยประจุเกินคืออะไร
A
การคายประจุเกินหมายถึงการที่แบตเตอรี่คายประจุเกินจุดคายประจุปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น การรั่วไหล สถานการณ์ที่ทำให้เกิดการคายประจุเกินมี 2 สถานการณ์:
- เมื่อแบตเตอรี่ยังคงคายประจุออก แม้จะถึงจุดที่ควรหยุดการปล่อยประจุแล้วแบตเตอรี่จะเข้าสู่สภาวะการปล่อยประจุเกิน ซึ่งอาจทำให้เกิดการรั่วไหลได้ ดังนั้นควรถอดแบตเตอรี่ทันทีเมื่อมันหมดประจุเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้
- การปล่อยให้แบตเตอรี่ที่มีการคายประจุจนหมดแล้วถูกทิ้งไว้นานเกินไปอาจทำให้เกิดการรั่วไหลได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์บางชนิดอาจดึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แม้จะปิดสวิตช์แล้วก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์ทำงานไม่เสถียร อาจบ่งบอกว่าแบตเตอรี่หมด ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการคายประจุเกิน ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอุปกรณ์เป็นประจำ
คลิกที่นี่เพื่อดูคำแนะนำหากของเหลวหรือสารจากแบตเตอรี่ที่รั่วออกมาสัมผัสกับดวงตาหรือผิวหนัง

Q
จะเกิดอะไรขึ้นกับแบตเตอรี่ถ้าทำตก
A
หากแบตเตอรี่เกิดการเสียรูปเนื่องจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง วัสดุภายในแบตเตอรี่อาจเกิดการลัดวงจรและทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความร้อน การระเบิด หรือการติดไฟได้ หากแบตเตอรี่ร้อนเกินไป อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของของเหลวได้ ควรระมัดระวังไม่ให้แบตเตอรี่ได้รับแรงกระแทกมากเกินไป คลิกที่นี่เพื่อดูคำแนะนำหากของเหลวหรือสารจากแบตเตอรี่ที่รั่วออกมาสัมผัสกับดวงตาหรือผิวหนัง
Q
มีข้อควรระวังในการใช้แบตเตอรี่ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นหรือไม่
A
โปรดพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้หากคุณวางแผนที่จะใช้แบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อนและชื้น:
การจัดเก็บแบตเตอรี่
- เก็บแบตเตอรี่ในสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้อยและห่างจากแสงแดดโดยตรงช่วง อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาคือระหว่าง 10 ถึง 25 องศาเซลเซียส
- หลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ในอุณหภูมิที่เกิน 35 องศาเซลเซียส เนื่องจากการเก็บในที่ที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานานอาจทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลดลง
- สภาพความชื้นสูงสามารถทำให้เกิดการควบแน่นบนแบตเตอรี่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการลัดวงจรได้ นอกจากนี้ หากแบตเตอรี่ถูกเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่เย็นและถูกนำออกมาเจอกับอุณหภูมิสูงทันที อาจทำให้เกิดการควบแน่นบนพื้นผิวของแบตเตอรี่ ส่งผลให้เกิดสนิมและอาจเกิดการลัดวงจรได้
การเก็บรักษาในยานพาหนะ
- เนื่องจากลักษณะทางเคมีของแบตเตอรี่ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนหรือความชื้นที่มากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง หรือที่ที่แสงแดดส่อถึงในรถยนต์ของคุณ สภาพเช่นนี้อาจทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลงและนำไปสู่การระเบิดหรือการรั่วไหลของของเหลวได้
คลิกที่นี่เพื่อดูคำแนะนำหากของเหลวหรือสารจากแบตเตอรี่ที่รั่วออกมาสัมผัสกับดวงตาหรือผิวหนัง
Q
ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อไหร่
A
เมื่อใดที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์แต่ละประเภท
ไฟฉายหลอดขนาดเล็กหรืออุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์
เปลี่ยนแบตเตอรี่ทันทีเมื่ออุปกรณ์หยุดทำงาน เช่น เมื่อไฟดับหรือมอเตอร์หยุดทำงาน ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่หากสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์ทำงานช้าลง
รีโมทคอนโทรล
หากพบว่าอุปกรณ์ทำงานช้าลงหรือระยะเวลาในการใช้งานสั้นลง แสดงว่าแบตเตอรี่กำลังสูญเสียความจุ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันทีเมื่อพบอาการเหล่านี้
สำหรับอุปกรณ์ดิจิตอล (เช่น LED)
อุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำงานได้นานด้วยการใช้พลังงานที่น้อย ไฟ LED สามารถสว่างไสวได้จนกว่าแบตเตอรี่จะใกล้หมด เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่ค่อยหรี่ลงเหมือนไฟหลอดเล็ก จึงทำให้ยากต่อการบอกได้ว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อใด แนะนำให้ตรวจสอบระยะเวลาในการใช้งานมาตรฐานที่ระบุไว้บนอุปกรณ์และเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกสิ้นปี คลิกที่นี่ เพื่อดูข้อควรระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่
Q
แบตเตอรี่แห้งและถ่านชาร์จเป็นไปตามมาตรฐาน RoHS หรือไม่
A
ไม่ ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน RoHS เนื่องจาก RoHS เกี่ยวข้องกับข้อบังคับในการใช้สารอันตรายบางชนิดในอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมถึงแบตเตอรี่แห้งและถ่านชาร์จ
[การใช้งาน]
Q
แบตเตอรี่ประเภทใดดีที่สุดในอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
A
โดยทั่วไปแล้ว ปฏิกิริยาเคมีจะอ่อนแอลงในอุณหภูมิที่ต่ำ และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่สามารถลดลงได้ถึง 50–90% อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ลิเธียม นิกเกิล-เมทัลไฮดราย และนิกเกิล-แคดเมียม มีประสิทธิภาพดีกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่นในอุณหภูมิที่เย็นและเหมาะสำหรับกล้องและอุปกรณ์กลางแจ้งต่าง ๆ
Q
ควรระวังอะไรบ้างเมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอุปกรณ์
A
อย่าใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ ประเภท ยี่ห้อ หรืออายุที่ต่างกันปะปนกัน นอกจากนี้ อย่าใช้แบตเตอรี่แห้งและถ่านชาร์จร่วมกันในอุปกรณ์ เว้นแต่ผู้ผลิตจะระบุไว้อย่างชัดเจน และเมื่อใช้ถ่านชาร์จ ต้องมั่นใจว่าได้ชาร์จทั้งหมดพร้อมกันในเวลาเดียวกันแล้ว ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ใช้ในอุปกรณ์ด้วยแบตเตอรี่ใหม่พร้อมกัน หากใช้ปนกันระหว่างแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วกับแบตเตอรี่ใหม่ อาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมดเป็นของใหม่ทุกครั้ง

Q
สามารถใส่แบตเตอรี่ต่างชนิดกันในอุปกรณ์ได้หรือไม่
A
อย่าใส่แบตเตอรี่ที่มีความจุ ประเภท ยี่ห้อ หรืออายุต่างกันปนกัน การทำเช่นนี้อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการรั่วซึมจากการคายประจุเกิน นอกจากนี้ อย่าใช้แบ็ตเตอรรี่แห้งกับถ่านชาร์จร่วมกันในอุปกรณ์ เว้นแต่ผู้ผลิตจะระบุไว้อย่างชัดเจน และเมื่อจะใช้ถ่านชาร์จ ควรชาร์จถ่านทั้งหมดพร้อมกัน คลิกที่นี่เพื่อดูข้อควรระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่
Q
ทำไมจึงจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีประเภท ยี่ห้อ และสภาพเหมือนกัน
A
เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ ประเภท ยี่ห้อ อายุ หรือสภาพที่แตกต่างกันในอุปกรณ์ เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่มีความต่างกันตามประเภทและยี่ห้อ ซึ่งความแตกต่างนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระหว่างการใช้งาน อาจทำให้แบตเตอรี่คายประจุเกินและเกิดการรั่วซึมได้ ในกราฟ A จะแสดงให้เห็นว่าความแตกต่างของความจุระหว่างแบตเตอรี่สองประเภทที่มองเห็นว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรั่วซึม ในกราฟ B แสดงให้เห็นว่าความจุของแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใช้แบตเตอรี่ใหม่และแบตเตอรี่ที่เคยใช้งานมาบ้างแล้ว แม้จะเป็นประเภทและยี่ห้อเดียวกันก็ตาม ความแตกต่างนี้จะยิ่งชัดเจนขึ้น ส่งผลให้แบตเตอรี่ที่หมดประจุก่อนเกิดการคายประจุเกินและอาจรั่วซึมได้ ดังนั้นควรใช้แบตเตอรี่ใหม่ทั้งหมดที่ซื้อมาพร้อมกัน และหลีกเลี่ยงการผสมแบตเตอรี่ที่ใช้งานแล้วกับแบตเตอรี่ใหม่

Q
จะทำอย่างไรให้แบตเตอรี่ทำงานได้ดีที่สุด
A
ใช้แบตเตอรี่ประเภทที่แนะนำตามคู่มือของอุปกรณ์ของคุณ เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นและลดโอกาสการทำงานผิดพลาด
◎ = แนะนำ ○ = เหมาะสม △ = ไม่แนะนำ
อุปกรณ์ที่ใช้ |
ถ่านอัลคาไลน์ |
ถ่านแมงกานีส |
---|---|---|
กล้องดิจิตอล |
◎ |
△ |
สโตรโบสโคป |
◎ |
△ |
แปรงสีฟันไฟฟ้า |
◎ |
△ |
เครื่องโกนหนวด |
◎ |
△ |
ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ |
◎ |
△ |
วิทยุพกพา |
◎ |
○ |
พจนานุกรมไฟฟ้า |
◎ |
△ |
รีโมทสำหรับเล่นเกม |
◎ |
△ |
รถบังคับวิทยุ |
◎ |
△ |
ของเล่นไฟฟ้าใช้พลังงานแบตเตอรี่ |
◎ |
○ |
ไฟฉาย LED |
◎ |
○ |
ไฟฉายใต้น้ำ |
◎ |
○ |
นาฬิกาแขวน/นาฬิกาตั้งโต๊ะ |
◎ |
◎ |
รีโมทคอนโทรล |
◎ |
◎ |
ตัวจุดระเบิดอัตโนมัติสำหรับอุปกรณ์แก๊สและน้ำมัน |
◎ |
○ |
คำแนะนำในการอ่านแผนภูมิ
ตรวจสอบใจความสำคัญด้านบนของตารางเพื่อดูว่าแบตเตอรี่ประเภทใดเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เนื่องจากประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามประเภทของอุปกรณ์ สภาพของแบตเตอรี่ และสภาพการใช้งาน ข้อมูลในตารางนี้ใช้เพื่อเป็นพียงแนวทางเท่านั้น ควรใช้แบตเตอรี่ให้ถูกประเภทตามที่แนะนำตามคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ หากมีการระบุไว้
แบตเตอรี่แห้งประเภทใดเหมาะกับการใช้งานของฉันที่สุด
ถ่านอัลคาไลน์สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง
ถ่านอัลคาไลน์เหมาะที่สุดสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้กระแสมากเช่น แฟลชกล้อง หรืออุปกรณ์ที่จ่ายกระแสอย่างต่อเนื่อง เช่น รถบังคับวิทยุ ซึ่งเราได้ปรับเคมีของถ่านอัลคาไลน์ให้เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาพลังงานที่ต้องอาศัยกระแสสูง
อุปกรณ์ที่เหมาะกับถ่านแมงกานีส
ถ่านแมงกานีสถูกออกแบบมาให้ใช้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนน้อย และจ่ายกรแสเป็นระยะ ๆ เช่น รีโมททีวี หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานต่อเนื่อง เช่น นาฬิกา
[ความผิดปกติ]
Q
ทำไมแบตเตอรี่ร้อน
A
มีหลายสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ร้อนได้:
- การลัดวงจรภายนอก: เมื่อแบตเตอรี่สัมผัสกับวัตถุที่เป็นโลหะโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเกิดการเชื่อมต่อระหว่างขั้วบวกและขั้วลบ ซึ่งอาจนำไปสู่การคายประจุอย่างรวดเร็ว ความร้อนสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งเกิดการระเบิด
- การลัดวงจรภายใน: ผลกระทบจากการกระแทก เช่น แบตเตอรี่ตกลงบนพื้นแข็ง อาจทำให้เกิดการลัดวงจรภายใน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการคายประจุอย่างรวดเร็ว ความร้อนสูงขึ้น หรือการระเบิดได้
- การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง: การใส่แบตเตอรี่ในทิศทางที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการลัดวงจร การบังคับชาร์จ และความร้อนสูงขึ้น หากคุณสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ร้อนขึ้นเนื่องจากใส่ไม่ถูกต้อง ให้ถอดออกและปล่อยให้เย็นลงก่อนทิ้ง อย่าพยายามใช้แบตเตอรี่นั้นอีกครั้ง

Q
ทำไมแบตเตอรี่จึงใส่ลงในช่องแบตเตอรี่ไม่ได้
A
แม้ว่าแบตเตอรี่จะผลิตตามมาตรฐาน IEC แต่ขนาดอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในแต่ละแบรนด์ หากแบตเตอรี่ของคุณไม่สามารถใส่ในช่องแบตเตอรี่ได้ อย่าฝืนใส่ ตรวจสอบข้อมูลจำเพราะของอุปกรณ์หรือติดต่อผู้ผลิตเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับประเภทและแบรนด์ของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอุปกรณ์นั้น
Q
เปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วทำไมอุปกรณ์ยังไม่ทำงาน
A
หลังจากตรวจสอบหาสาเหตุที่อุปกรณ์แล้ว ให้เปิดช่องแบตเตอรี่และตรวจสอบดังต่อไปนี้:
- ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ถูกใส่ในทิศทางขั้วถูกต้องหรือไม่
- ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่และอุปกรณ์ว่ามีฝุ่น จาระบี หรือสิ่งสกปรกหรือไม่ แม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถขัดขวางการสัมผัสเพื่อเชื่อมต่อได้
- ตรวจสอบว่าขั้วต่อของช่องใส่แบตเตอรี่และขั้วแบตเตอรี่สัมผัสกันหรือไม่ แม้ว่าช่องใส่แบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้เหมาะกับขนาดแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน IEC แต่บางช่องอาจไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้ใส่ได้ไม่พอดีส่งผลให้การสัมผัสทำหน้าที่ได้ไม่ดี
Q
ทำไมอุปกรณ์จึงทำงานได้ไม่ได้นานเท่ากับเตอนใช้แบตเตอรี่เดิม
A
มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหานี้ หนึ่งในนั้นคือความแตกต่างของประเภทแบตเตอรี่ ถ่านแมงกานีสและถ่านอัลคาไลน์มีความจุที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าที่อายุการใช้งานสั้นลงนั้นขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีถ่านอัลคาไลน์หลายเกรด โดยแบตเตอรี่ระดับพรีเมียมจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมาก หากอุปกรณ์ของคุณต้องใช้คู่กับแบตเตอรี่ระดับพรีเมียม แต่หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่แบบมาตรฐาน กรณีนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความแตกต่างในเรื่องประสิทธิภาพได้
[การรั่วซึม]
Q
ควรดำเนินการอย่างไรหากสัมผัสกับของเหลวที่รั่วไหลออกจากแบตเตอรี่
A
หากสัมผัสกับของเหลวหรือสารที่รั่วไหลจากแบตเตอรี่ ให้ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดแผลไหม้หรือตาบอดจากสารเคมี:
1. อิเล็กโทรไลต์ของถ่านอัลคาไลน์
หากของเหลวเข้าตาหรือโดนผิวหนัง:
- อิเล็กโทรไลต์ของถ่านอัลคาไลน์เป็นสารละลายที่มีความเป็นด่างสูง ประกอบด้วยโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นหลัก หากของเหลวรั่วไหลเข้าตา ห้ามขยี้ตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก และรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
- หากของเหลวสัมผัสกับผิวหนัง ควรล้างบริเวณที่สัมผัสทันทีด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ เพื่อป้องกันการถูกไหม้จากสารเคมี
2. อิเล็กโทรไลต์ของถ่านแมงกานีส:
หากของเหลวเข้าตาหรือโดนผิวหนัง:
- อิเล็กโทรไลต์ของถ่านแมงกานีสเป็นสารละลายที่มีความเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งประกอบด้วยสังกะสีคลอไรด์หรือแอมโมเนียมคลอไรด์เป็นหลัก หากของเหลวที่รั่วไหลเข้าตา ห้ามขยี้ตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก และรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
- หากของเหลวสัมผัสกับผิวหนัง ควรล้างบริเวณที่สัมผัสทันทีด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ เพื่อป้องกันการถูกไหม้จากสารเคมี
หากของเหลวโดนเสื้อผ้า:
- ถอดเสื้อผ้าที่สัมผัสกับของเหลวออกเพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวสัมผัสกับผิวหนัง
- ล้างบริเวณที่สัมผัสด้วยน้ำปริมาณมาก
- ซักเสื้อผ้าตามปกติ แต่อาจเกิดการเปลี่ยนสีหรือเสื่อมสภาพในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ขึ้นอยู่กับวัสดุของเสื้อผ้า
หากของเหลวถูกเฟอร์นิเจอร์หรือพื้น:
- เช็ดเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นบริเวณที่สัมผัสของเหลวให้สะอาดด้วยกระดาษทิชชู่ ผ้าเช็ดทำความสะอาด หรือผ้าขนหนูที่ชุบน้ำหมาด ๆ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ของเหลวจากแบตเตอรี่สัมผัสกับมือของคุณ เพราะอาจทำให้เกิดแผลไหม้จากสารเคมีได้ ควรสวมถุงมือยางหรือถุงมือกันน้ำอื่น ๆ ในระหว่างการทำความสะอาด
- หากของเหลวถูกมือ ให้ล้างมือทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ
- สีพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์และพื้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับวัสดุของพื้นผิวนั้น ๆ
[ความปลอดภัย]
Q
เมื่อพบแบตเตอรี่ในเสื้อผ้าที่ซักแล้วควรทำอย่างไร
A
หากสงสัยว่าแบตเตอรี่ถูกซักพร้อมกับเสื้อผ้าในเครื่องซักผ้า แบตเตอรี่จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป เพราะอาจมีโอกาสที่แบตเตอรี่จะลัดวงจรหรือเกิดออกซิเดชัน ให้ทิ้งแบตเตอรี่นั้นและซักเสื้อผ้าใหม่เพื่อความปลอดภัย
Q
จะเกิดอะไรขึ้นหากมีแบตเตอรี่หนึ่งก้อนในเซ็ตกลับด้าน
A
อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่สามก้อนขึ้นไปอาจทำงานได้แม้ว่าแบตเตอรี่หนึ่งก้อนจะถูกใส่กลับด้าน (การเชื่อมต่อที่กลับด้าน) แต่สิ่งนี้อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการชาร์จ ส่งผลให้เกิดการรั่วไหลหรือระเบิดจนมีของเหลวไหลออกมาได้ ควรใส่ขั้วบวกและขั้วลบให้ถูกต้อง หากของเหลวหรือสารจากแบตเตอรี่รั่วไหลสัมผัสกับตาหรือผิวหนัง โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูแนวทางที่แนะนำ
