บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนากล้อง

กระตุ้นความสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพ

การแสดงถึงแก่นสารของตัวแบบและถ่ายทอดการรับความรู้สึกของมนุษย์

—ปรัชญาใน “การสร้างภาพถ่าย” ของ LUMIX คืออะไร

Suou: เราคิดว่าคุณภาพของภาพมีสองด้าน คือด้านที่เป็นตัวเลข และด้านความรู้สึก และเราเรียกอย่างที่สองว่า “การสร้างภาพถ่าย” เมื่อมีหลักปรัชญาในการสร้างภาพถ่าย เราจึงมั่นใจว่าคุณภาพในการสร้างภาพถ่ายของ LUMIX จะมีความสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น แม้จะใช้กล้อง G9 ในมาตรฐานระบบ Micro Four Thirds กับเลนส์ฟูลเฟรม S1R ภาพที่ได้จะยังคงมีคุณภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลง และเราเชื่อว่ามันสำคัญต่อการได้รับความไว้วางใจในตัวผลิตภัณฑ์จากช่างภาพมืออาชีพ


—โปรดอธิบายหลักปรัชญาในการสร้างภาพถ่ายของ LUMIX

Toshinari Suou  —วางแผนการสร้างภาพถ่าย

Toshinari Suou
—วางแผนการสร้างภาพถ่าย

Suou: โดยสรุป หลักปรัชญาในการสร้างภาพถ่ายของเราอยู่ในประโยคที่ว่า “Capturing It All.” ซึ่งหมายถึงการบันทึกผลงานที่สลับซับซ้อนในชีวิตและห้วงเวลา การทำเช่นนี้จำเป็นต้องถ่ายทอดสารสำคัญของตัวแบบออกมาให้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น หากกำลังถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้า ภาพที่ถ่ายควรแสดงให้เห็นถึงความลึกของท้องฟ้าสีฟ้า หากกำลังถ่ายภาพดอกไม้บานที่มีสีสันสดใส ภาพถ่ายควรแสดงความสดชื่นและความมีชีวิตชีวาของดอกไม้แต่ละดอก

 

—การพัฒนาของปรัชญา “จับภาพไว้ได้ทั้งหมด” สำหรับกล้องฟูลเฟรมนั้นน่าสนใจมาก

Suou: คำสำคัญที่เราได้ยินมาจากการพูดคุยกับช่างภาพมืออาชีพคือ “ความชุ่มชื้น” รอบๆ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกซึ่งสามารถถ่ายทอดออกมาได้ในภาพ หากกล้องสามารถจับภาพและแสดงสิ่งนี้ออกมาได้อย่างสวยงาม ก็จะสามารถถ่ายทอดตัวแบบได้หลากหลายประเภทอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น “มิติความลึก” และ “การถ่ายทอดความลึก”

—“ความชุ่มชื้น”... นับเป็นคำที่แปลกสำหรับใช้บรรยายคุณภาพของภาพ

Suou: ใช่ครับ “ความชุ่มชื้น” เป็นคำที่ต้องใช้ความรู้สึกและกำกวมมาก หากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ออกมาในภาพ เราต้องบอกให้ได้และเข้าใจคำว่า “ความชุ่มชื้น” ด้วยตัวเองก่อน เราถ่ายภาพภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและอภิปรายกัน จากนั้นนำสิ่งที่เราคุยกันมาแจกแจงและนำมาใช้ในการออกแบบคุณภาพของภาพ เมื่อทำขั้นตอนนี้ซ้ำๆ เราจึงเข้าใจว่า “ความชุ่มชื้น” คืออะไรและสามารถใส่หัวใจสำคัญลงไปในแนวคิดการสร้างภาพถ่ายที่เราวางไว้ผ่านการพัฒนากล้องและเลนส์ในระบบ Micro Four Thirds ได้สำเร็จ

 

—ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องใช้ความพยายามมากขนาดนี้ในการพัฒนา

Suou: จุดมุ่งหมายของความพยายามในการสร้างภาพถ่ายของเราค่อนข้างซับซ้อน และการใช้เพียงแค่เซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรมอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายนี้ หรือพูดในทางกลับกันคือ เราจำเป็นต้องออกแบบและใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์และเอ็นจินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิด “ความชุ่มชื้น” และ “มิติความลึก” ตามหลักการของปรัชญาในการสร้างภาพถ่ายของเรา

S Series สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ เช่น อากาศ และความชื้น
 

—ผมคิดว่าคงมีอุปสรรคหลายอย่างที่คุณต้องเอาชนะเพื่อออกแบบคุณภาพของภาพที่สามารถถ่ายทอด “ความชุ่มชื้น” ได้

Okamoto: เนื่องจากเราต้องหาวิธีการถ่ายทอดสิ่งที่มองไม่เห็นและต้องใช้ความรู้สึกซึ่งไม่มีรูปร่างที่จับต้องได้ เราจึงไม่รู้ว่าควรต้องเริ่มต้นตรงไหนในช่วงแรกของการพัฒนา มันไม่ใช่งานที่ง่ายเนื่องจากเราต้องหาว่าวิธีการของเราจะไปในทิศทางใด วิเคราะห์ข้อกำหนดทางเทคนิคต่างๆ และสะท้อนออกมาในการออกแบบคุณภาพของภาพ

 

—อะไรคือสิ่งที่ทำให้ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นมาได้

Akihiko Okamoto  —การออกแบบคุณภาพของภาพ

Akihiko Okamoto
—การออกแบบคุณภาพของภาพ

Okamoto: ระหว่างทำการวิเคราะห์หลายครั้งว่าจะถ่ายทอด “ความชุ่มชื้น” ออกมาได้อย่างไร เราค้นพบว่าการประมวลผลของรายละเอียดและการไล่ระดับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในความละเอียดและความต่างสี และแสดงโทนสีซีดและรายละเอียดจางๆ ของเงาให้ชัดเจน จะสามารถแสดงภาพต้นไม้บนภูเขาที่กำลังถูกหมอกกลืนออกมาได้ และเราสรุปว่านี่คือความหมายของคำว่า “ความชุ่มชื้น”

—คุณเลยเอาความรู้นั้นมาใช้ในการพัฒนาเอ็นจิน

Okamoto: LUMIX มีเทคโนโลยีประมวลผลภาพคุณภาพสูงซึ่งได้มาจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระบบ Micro Four Thirds เช่น Intelligent Detail Processing และระบบควบคุมสีสามมิติ เมื่อผสานการทำงานของเลนส์ที่มีประสิทธิภาพในการแสดงภาพที่ยอดเยี่ยม เซ็นเซอร์ความละเอียด ความไว และไดนามิกเรนจ์สูง และเอ็นจินประมวลผลภาพสมรรถนะสูง S Series จึงสามารถถ่ายทอด “ความชุ่มชื้น” ออกมาได้ ผมคิดว่าเราได้ก้าวเข้าไปใกล้คุณภาพของภาพในอุดมคติตามปรัชญาการสร้างภาพถ่ายของเราที่ว่า “Capturing It All.” อีกก้าวหนึ่ง

สัมผัสประสบการณ์ฟังก์ชั่นการถ่ายทอดแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
 

—ผมเข้าใจว่า S Series มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพที่ล้ำสมัย เช่น โหมดความละเอียดสูง และภาพถ่าย HLG

Osuka: โหมดความละเอียดสูงใช้เทคโนโลยีที่สร้างภาพความละเอียดสูงจากภาพต่อเนื่องแปดภาพที่ได้จากการเคลื่อนที่ของเซ็นเซอร์ภาพในระดับซับพิกเซล กล้อง S1R สามารถสร้างภาพ RAW ความละเอียดสูงพิเศษที่มีความละเอียดเทียบเท่าถึง 187 ล้านพิกเซล

 

—มีการใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้ในกล้อง G9 ใช่ไหม

Kyosuke Osuka —ออกแบบซอฟต์แวร์

Kyosuke Osuka
—ออกแบบซอฟต์แวร์

Osuka: ใช่ครับ นอกจากนั้น S Series ยังมีการเพิ่มโหมดใหม่เข้ามาซึ่งสามารถใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์และภาพแบบอื่นๆ ได้ ส่วนที่มีการเคลื่อนไหวในภาพ เช่น ใบไม้ไหว ก่อนหน้านี้จะเกิดการเบลอเมื่อปรากฏในภาพ แต่ S Series ช่วยลดการเบลอในส่วนที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นจึงสามารถให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น

 

—ผมไม่คิดว่าเราเคยได้ยินฟังก์ชั่นที่เรียกว่าภาพถ่าย HLG มาก่อน

Osuka: ภาพถ่าย HLG คือฟังก์ชันที่ทำหน้าที่สร้างภาพ HDR จากมาตรฐาน Hybrid Log Gamma

สำหรับฟังก์ชั่นภาพถ่าย HLG เราได้พัฒนาการไล่ระดับสีแบบใหม่ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้หน้าจอสามารถแสดงภาพแบบ HLG ได้ เมื่อดูบนหน้าจอที่รองรับภาพถ่าย HLG ได้ ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องจาก S Series จะแสดงรายละเอียดของส่วนที่เป็นไฮไลต์และเงาได้ดีกว่าและสามารถถ่ายทอดออกมาได้แม้กระทั่ง “แสงจ้า” และ “ประกายระยิบระยับ” นอกจากนี้ ยังให้ช่วงสีที่กว้างขึ้น จึงสามารถแสดงสีเขียวของใบไม้ได้ชัดเจนกว่า
 

— ผมรู้สึกทึ่งเมื่อได้เห็นแสงจ้าที่ถูกแสดงออกมาในภาพตัวอย่าง

Osuka: ภาพ JPEG แบบมาตรฐานคือ 8 บิต แต่่ภาพถ่าย HLP มี 10 บิต จึงมีความละเอียดมากกว่า นอกจากนี้ ขอบเขตในการบันทึกของด้านที่มีความสว่างสูงยังกว้างกว่าและมีไดนามิกเรนจ์ที่ใกล้เคียงกับที่ตาของมนุษย์สามารถมองเห็นได้ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความสำเร็จของฟังก์ชั่นนี้นับเป็นอีกระดับหนึ่งของการถ่ายทอดด้วยภาพถ่าย ในระหว่างการพัฒนา เราตั้งใจจะสร้างความรู้สึกที่บุคคลหนึ่งจะได้รับเมื่อ “มองไปที่ฟิล์มโพสิทีฟที่มีแสงจากตู้ไฟ” ผมต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายทอดด้วยภาพถ่ายแบบใหม่นี้ซึ่งแตกต่างไปจากสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วไปอย่างมาก