เลือกสี
Retail Sales Price: Panasonic Online Price: SHOP NOW Buy from Panasonic Where to Buy Out of Stock at Panasonic Online

การออกแบบเลนส์ที่ไม่มีวันล้าสมัย

การออกแบบเลนส์ที่ไม่มีวันล้าสมัย

เรากำลังเผชิญกับยุคแห่งการปฏิวัติวงการถ่ายภาพที่มีการถ่ายและแบ่งปันรูปภาพมากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อน และผู้ใช้กล้องรวมถึงโลกของสื่อสิ่งพิมพ์ต่างก็ยอมรับมาตรฐานด้านคุณภาพทั้งในการถ่ายภาพและวิดีโอในยุคใหม่นี้กันอย่างรวดเร็ว ในอดีต วิศวกรเลนส์ต้องออกแบบเลนส์ที่สามารถเข้ากันได้และทำงานได้ดีกับฟิล์มอนาล็อก มาตรฐานนี้จึงเป็นตัวกำหนดการออกแบบเลนส์ อย่างไรก็ตาม เซ็นเซอร์ในปัจจุบันมีกำลังมากและมีความละเอียดสูง นักออกแบบเลนส์จึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างมาตรฐานใหม่ในการออกแบบออพติคอลและกลไก และยังต้องคาดการณ์ถึงความต้องการด้านการถ่ายภาพและเซ็นเซอร์ในอนาคตด้วยในเวลาเดียวกัน เราได้พูดคุยกันถึงความท้าทายเหล่านี้และหลักปรัชญาดังกล่าวกับวิศวกรสองท่านที่มีหน้าที่รับผิดชอบเลนส์ LUMIX S series รุ่นใหม่ ซึ่งก็คือ คุณ Shinji Watanabe นักวางแผนผลิตภัณฑ์เลนส์ และคุณ Kyoichi Bito วิศวกรเลนส์ออพติคอล

อะไรทำให้กล้องฟูลเฟรม S series มีความพิเศษและเพราะเหตุใดการออกแบบของเลนส์จึงมีความสำคัญมาก ‘คุณค่าที่แท้จริงของกล้องที่มีเซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรมคือศักยภาพในการแสดงภาพถ่ายที่เกิดจากความละเอียดของภาพ’ Shinji Watanabe อธิบาย ‘เรามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานด้านการออกแบบกล้องระบบ DSLM (กล้องดิจิตอลมิเรอร์เลสเลนส์เดี่ยว) และเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้อีกมากมาย ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญที่เรานำมาใช้ในการพัฒนาเลนส์ฟูลเฟรมใน S series ของเรา ‘การเป็นน้องใหม่ในตลาดกล้องฟูลเฟรมอาจดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็มีประโยชน์ในบางข้อเช่นกัน Panasonic ได้พัฒนาระบบกล้องและเลนส์ใน S series ตั้งแต่แรกเริ่มจนมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานในปัจจุบันและหวังว่าจะตอบสนองมาตรฐานในอนาคตด้วย ในฐานะที่เป็นการออกแบบออพติคอลและกลไกรุ่นใหม่ 'เลนส์เหล่านี้มีความสามารถในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่' อาจดูเป็นคำกล่าวที่ดูมั่นใจเกินไป แต่นี่คือบริษัทที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีล้ำหน้ามากมายที่เปลี่ยนโฉมการถ่ายภาพและวิดีโอที่เราเคยรู้จัก รวมทั้งระบบกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกของโลกด้วย พวกเขายังคงเดินหน้าต่อในเส้นทางสายนวัตกรรมด้วยระบบกล้องและเลนส์ระดับมืออาชีพใน S series ใหม่ล่าสุด

Kyoichi Bito: ‘เราได้ผสมผสานเอาความก้าวหน้าทางเทคนิคมากมายไว้ในเลนส์รุ่นใหม่นี้ เช่น โฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่ความเร็วสูงและความแม่นยำสูง รวมถึงคุณภาพสูงสุดในการถ่ายวิดีโอ ในส่วนของ AF ที่มีความเร็วสูงและความแม่นยำสูง เราใช้การควบคุมโฟกัสความเร็วสูงพิเศษที่ 480fps และระบบเสริมแบบอัลตร้าโซนิคที่เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำให้กับ AF

นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอที่ยอดเยี่ยมด้วย จึงสามารถเปลี่ยนค่าแสงได้อย่างราบรื่นและลดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะโฟกัส (Focus breathing) LUMIX ใช้คุณสมบัติเหล่านี้ได้ด้วยเลนส์ Micro-Four-Thirds แบบถอดเปลี่ยนได้ เราใช้ความเชี่ยวชาญในด้านที่เรามีอยู่แล้ว ในการทำให้แน่ใจว่าเลนส์ S series มีคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้และได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก กล้องฟูลเฟรมต้องใช้เลนส์ที่ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ดังนั้น คำถามคือจะทำอย่างไรให้เลนส์มีขนาดพกพาได้โดยยังคงความเร็วสูงและความแม่นยำไว้ ซึ่งนี่เป็นความท้าทายทั้งในด้านการออกแบบออพติคอลและกลไก เราพัฒนาระบบโฟกัสคู่แบบใหม่ซึ่งผสมผสานระบบโฟกัสแบบอัลตร้าโซนิคเพื่อให้ได้ AF ที่มีความเร็วสูงและความแม่นยำสูง การทำให้วิดีโอมีคุณภาพดีขึ้นด้วยการแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสที่เปลี่ยนตามระยะโฟกัสและเงาแปลกปลอมอื่นๆ กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเลนส์ DSLM อย่างเลี่ยงไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ LUMIX พยายามทำมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Micro-Four-Thirds เราขอแนะนำให้ช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์ทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ในกล้อง LUMIX S1R, S1H และ S1 และลองสัมผัสประสิทธิภาพด้วยตนเอง’

Bito: ‘แน่นอนว่าประสิทธิภาพและสเปคนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ “สไตล์” ที่ไม่ซ้ำใครหรือการถ่ายทอดภาพอย่าง “สวยงาม” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดเป็นตัวเลขได้ ก็เป็นส่วนที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน’

ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ฟูลเฟรมหรือไม่ การเปลี่ยนจาก 3 มิติเป็น 2 มิติ คือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงว่าจะมีผลอย่างไรต่อการออกแบบออพติคอลซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อ “ความรู้สึก” ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ ในส่วนของเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติในภาพ เราคิดถึงว่า ภาพบุคคลควรออกมาเป็นอย่างไร เมื่อโฟกัสที่ดวงตาของตัวแบบและเปิดรูรับแสง ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นจากดวงตาไปถึงใบหู โดยเป็นโบเก้ต่อเนื่องซึ่งทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติ ซึ่งการทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติที่ดูเป็นธรรมชาติในวิดีโอจำเป็นต้องใช้ความหลงใหลและความเข้าใจในรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง การใช้เพียงแค่โบเก้ในพื้นหลังของฉากนั้นไม่เพียงพอ เราได้ปรับแต่งความสามารถในการถ่ายทอดของเลนส์เพื่อให้สามารถทำอะไรได้เกินกว่าสเปคที่มีเพียงอย่างเดียว กับโบเก้ก็เช่นกัน เราต้องการให้เลนส์นี้สร้างโบเก้ที่มีความสวยงามและได้ปรึกษากับช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์มืออาชีพเกี่ยวกับรูปร่าง รูปแบบ โครงสร้าง และระดับของโบเก้ ซึ่งวิศวกรของเราตอบสนองคำแนะนำเหล่านี้ด้วยการสร้างโบเก้ที่สวยงามซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบของ LUMIX S series เท่านั้น’

หลักปรัชญาเรื่องประสิทธิภาพชั้นยอดที่อยู่เบื้องหลังระบบ S นั้นเห็นได้ชัดเจนในตัวกล้องเอง เพราะได้รับการออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด มีประสิทธิภาพสูง และระบบชัตเตอร์ทนทานอย่างที่มืออาชีพต้องการ กล้อง LUMIX ไม่เพียงแต่ถูกสร้างมาเพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายเท่านั้น แต่ในด้านเทคโนโลยี ยังมีช่องมองภาพความละเอียดสูง ระบบลดการสั่นไหวชั้นแนวหน้า ความละเอียดภาพแบบฟูลเฟรมสูงสุด (S1R) ความสามารถในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยที่ยอดเยี่ยม (S1) และประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอที่เหนือชั้น (S1H) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

จึงมั่นใจได้ว่าเลนส์ก็ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นจากหลักการเดียวกัน Watanabe: ‘แนวคิดหลักของเลนส์ใน S series คือให้ความละเอียดสูงสุด โบเก้ที่สวยงามพร้อมเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติ ระบบ AF ที่มีความเร็วสูงและความแม่นยำสูง ความคล่องตัวสูงเนื่องจากมีระบบกันสั่น และยังมีความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ยอดเยี่ยม ความละเอียดสูงคือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการสร้างเลนส์ เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญของการนำเอาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์มาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต อันดับสองคือโบเก้ที่สวยงามพร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติ ซึ่งทำให้เลนส์มีคุณภาพในการถ่ายทอดภาพที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่พัฒนาเลนส์ S series สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือเราจะสามารถถ่ายทอดสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ออกมาในภาพได้อย่างไร และเรายังได้ศึกษาลักษณะที่จับต้องไม่ได้ด้วยว่าการแสดงภาพที่ “มีชีวิตชีวา” และ “สมจริง” นั้นหมายความว่าอย่างไร

ไม่ใช่เพียงแค่การออกแบบออพติคอลเท่านั้นที่ LUMIX สร้างมาเพื่อตอบสนองมาตรฐานสำหรับช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์ แต่ L-mount Alliance ยังรองรับการใช้งานร่วมกับพันธมิตรอย่าง Sigma และ Leica ซึ่งกำลังสร้างสรรค์การออกแบบออพติคอลและเลนส์อันน่าทึ่งสำหรับระบบนี้เช่นกัน นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของเราในการสร้างระบบที่มีความยั่งยืนและนำเสนอเลนส์ที่มีความหลากหลายให้แก่ผู้ใช้ Watanabe ยิ้มและกล่าวต่อไปว่า ‘อุตสาหกรรมกล้องถ่ายรูปกำลังเผชิญกับความต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้นทั้งในการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอ เลนส์ S series ได้รับการพัฒนามาเพื่อให้มีความทันสมัยอยู่เสมอและได้รับการออกแบบเพื่อให้ช่างภาพ ช่างถ่ายวิดีโอ และผู้สร้างภาพยนตร์สามารถแสดงผลงานอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

LUMIX S PRO 50mm f/1.4

LUMIX S PRO 50mm f/1.4 (S-X50)

เลนส์ความยาวโฟกัสคงที่และรูรับแสงกว้างที่เป็นหัวใจสำคัญของเลนส์ LUMIX S Series ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 13 ชิ้นใน 11 กลุ่ม ชิ้นเลนส์ aspherical 2 ชิ้น และเลนส์ ED (Extra-low Dispersion) 3 ชิ้นซึ่งช่วยแก้ความคลาดสีในแนวแกนและความคลาดสีจากการขยายอย่างได้ผล ระบบโฟกัสคู่่มีทั้งมอเตอร์แนวราบและมอเตอร์แบบ stepping เพื่อขับเคลื่อนเซนเซอร์ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 480 fps สำหรับการโฟกัสอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูงและรวดเร็ว กลไกคลัทช์ของโฟกัสช่วยให้สลับ AF/MF ได้ทันทีและโฟกัสแบบแมนนวลได้อย่างแม่นยำ ปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะโฟกัสได้รับการแก้ไข จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบันทึกวิดีโอ รูรับแสงแบบเวียน 11 แฉก สร้างโบเก้ที่กลมสวยงามและนุ่มนวลในพื้นหลัง เลนส์สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานหนักและสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วง และได้รับการออกแบบมาให้ทนต่อฝุ่นละออง ละอองน้ำ และความเย็น เลนส์ Panasonic LUMIX S PRO 50mm ให้คุณภาพของภาพที่น่าประทับใจและความละเอียดสูงสะดุดตาตลอดช่วงกลางภาพไปจนถึงขอบภาพที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ เลนส์ S PRO 50mm ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
 
ภาพดอกไม้ โดย : Munemasa Takahashi
ภาพนางแบบ โดย : Hideki Kono