หากคุณมีลูกที่ยังเล็ก ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการรักษาระดับความชื้น
และอุณหภูมิในบ้านของคุณให้เหมาะสม
สารบัญ
- ระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับห้องเด็กทารก
- ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับห้องเด็กทารก
- จะวัดความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
- จะเพิ่มความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
- จะลดความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
- ระดับความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณคือเท่าใด
- ระดับความชื้น และอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงฤดูร้อนสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ระดับความชื้น และอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงฤดูหนาว
- เครื่องปรับอากาศพานาโซนิคช่วยให้ห้องของคุณสะอาด และสบายอยู่เสมอ
การมีลูกที่ยังเล็กคือความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ และผู้ปกครองทุกคน
คุณไม่เพียงแต่ต้องดูแลทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจของลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังต้องคอยปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกของคุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อดูแลลูกให้ดีที่สุด คือการรักษาระดับความชื้น และอุณหภูมิในห้องของลูกและภายในบ้านของคุณให้เหมาะสม
การรักษาระดับความชื้นในห้องของเด็กทารกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม คือสิ่งจำเป็นด้วยสาเหตุหลายประการ
ด้วยอายุที่ยังน้อยมาก เด็กทารกจึงได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า ระดับความชื้นที่เหมาะสมจึงจำเป็นสำหรับการดูแลระบบทางเดินหายใจ และผิวหนังของเด็กทารกให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทั้งยังทำให้รู้สึกสบายตัวอีกด้วย
ระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับห้องเด็กทารก
องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริการะบุว่าระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับเด็กทารกทั่วโลกโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 30% และ 50%1
ระดับความชื้นในช่วงนี้ทำให้อากาศไม่แห้งเกินไป อากาศที่แห้งเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจหรือระคายเคืองผิวหนังได้ หรือหากชื้นเกินไป ก็จะทำให้เชื้อรา และแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อเด็กทารก เจริญเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตาม ระดับความชื้นที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ ฤดูกาล และความต้องการของเด็กทารกแต่ละคน
ในสภาพภูมิอากาศที่ร้อน และแห้ง เช่น ในบางภูมิภาคของตะวันออกกลางหรือออสเตรเลีย ระดับความชื้นที่ใกล้เคียง 60% อาจเหมาะสมกว่า อากาศที่แห้งอาจทำให้เด็กทารกมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เลือดกำเดาไหล หรือผิวแห้ง ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าในการเพิ่มระดับความชื้นภายในบ้านของคุณ
หรือในภูมิภาคที่มีสภาพอากาศชื้น เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือทะเลแคริบเบียน ระดับความชื้นที่ต่ำอาจป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา และแบคทีเรียบนข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทารกได้ดีกว่า
เนื่องจากช่วงของระดับความชื้นอาจแตกต่างกัน จะเป็นการดีที่สุดหากคุณปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นเพื่อให้ทราบถึงระดับความชื้นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกน้อยของคุณ โดยพิจารณาจากถิ่นที่อยู่ และสถานการณ์ของคุณ
ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับห้องเด็กทารก
SleepFoundation.org ระบุว่าระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับห้องของเด็กทารกมักจะอยู่ในช่วง 68°F (20°C) ถึง 72°F (22.2°C)3
ในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นอย่างภูมิภาคตะวันออกกลาง ระดับอุณหภูมิที่แนะนำคือ 71.6°F (22°C) ถึง 75.2°F (24°C) ซึ่งสูงกว่าคำแนะนำในช่วง 60.8°F (16°C) ถึง 68°F (20°C) สำหรับประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นอยู่เล็กน้อย4
นอกจากสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของเด็กแต่ละคนแล้ว ฤดูกาลในสภาพภูมิอากาศของคุณก็ส่งผลต่อระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับห้องของลูกน้อยของคุณเช่นกัน
ช่วงอุณหภูมิดังกล่าวจะช่วยให้ห้องของลูกน้อยของคุณไม่หนาวเย็นจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ไม่สบายตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตัวเย็น หรืออุ่นเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดน้ำหรือปัญหาด้านการหายใจ
คุณอาจใช้เทอร์โมสตัท หรืออุปกรณ์เฝ้าดูเด็กที่มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อช่วยในการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องของลูกให้อยู่ในช่วงที่ปลอดภัย และสบายตัวอยู่เสมอ
จะวัดความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
คุณสามารถวัดระดับความชื้นในห้องของคุณได้ง่ายๆ เพียงใช้มาตรวัดความชื้นเท่านั้น ซึ่งมาตรวัดความชื้นก็คือเครื่องมือที่สามารถใช้วัดปริมาณความชื้น หรือไอน้ำในอากาศได้
สิ่งที่คุณต้องปฏิบัติมีดังนี้:
- ซื้อมาตรวัดความชื้น
- วางมาตรวัดความชื้นไว้ในห้อง
- รอให้เครื่องมืออ่านค่า
- บันทึกค่าที่ได้แล้วปรับระดับความชื้นให้เหมาะสม
เนื่องจากระดับความชื้นในห้องของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาในแต่ละวัน สภาพอากาศ และฤดูกาล คุณจึงควรปรับระดับความชื้นให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมอยู่เสมอ วิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการลงทุนซื้อเครื่องทำความชื้นและเครื่องลดความชื้น
จะเพิ่มความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
หากมาตรวัดความชื้นในห้องของลูกแสดงค่าที่ต่ำเกินไป ให้คุณเพิ่มระดับความชื้นให้สูงขึ้น คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเพิ่มระดับความชื้นในห้องได้:
- ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าคุณควรลงทุนซื้อเครื่องทำความชื้น เครื่องทำความชื้นคืออุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ อุปกรณ์นี้มีหลายขนาดให้เลือกและอาจมีคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย คุณเพียงต้องเติมน้ำลงไป เปิดเครื่อง จากนั้นก็ปล่อยให้อุปกรณ์กระจายอากาศที่ชุ่มชื้นเข้าสู่ห้อง เครื่องทำความชื้นบางรุ่นมีระดับละอองน้ำให้เลือกได้หลายระดับ คุณจึงสามารถเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมได้ตามความต้องการ
- นำชามใส่น้ำไปตั้งไว้ในห้อง - เนื่องจากการระเหยของน้ำสามารถทำให้ระดับความชื้นในห้องเพิ่มขึ้นได้ นี่เป็นวิธีการที่สะดวกสบาย และไม่แพงในการเพิ่มระดับความชื้นในห้องของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเติมน้ำมันหอมระเหยหรือสมุนไพรลงไปในชามใส่น้ำเพื่อให้มีกลิ่นหอมได้ด้วย
- ใช้สเปรย์ฉีดน้ำ - หากคุณปลูกต้นไม้ คุณอาจมีสเปรย์ฉีดน้ำอยู่แล้ว คุณสามารถใช้สเปรย์ฉีดน้ำใส่อากาศเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มความชื้น หรืออาจตั้งกระถางต้นไม้ไว้ในห้องเพื่อช่วยรักษาระดับความชื้น เนื่องจากพืชจะปล่อยไอน้ำออกมาในกระบวนการคายน้ำ
- เปิดหน้าต่าง - หากอากาศข้างนอกมีความชื้นสูงกว่าภายในห้อง การเปิดหน้าต่างจะช่วยเพิ่มระดับความชื้นในห้องได้ อย่างไรก็ตาม หากข้างนอกมีอากาศแห้ง วิธีการนี้จะไม่ได้ผล
จะลดความชื้นในห้องของคุณได้อย่างไร
หากคุณกังวลว่าความชื้นในห้องของคุณจะสูงเกินไป และต้องการลดความชื้นลง วิธีการที่ได้ผลในการลดระดับความชื้นในห้องมีดังต่อไปนี้
- ใช้เครื่องลดความชื้น - เครื่องลดความชื้นจะขจัดความชื้นออกไปจากอากาศ เพียงเปิดเครื่องลดความชื้น และปล่อยให้เครื่องขจัดความชื้นส่วนเกินออกไปจากอากาศ
- เพิ่มการระบายอากาศ - เปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในห้อง วิธีนี้จะช่วยลดระดับความชื้นในห้องได้เนื่องจากอากาศที่อุ่น และชื้นในห้องของคุณจะถูกแทนที่ด้วยอากาศสดชื่นจากข้างนอก
- ใช้เครื่องปรับอากาศ - เครื่องปรับอากาศสามารถลดความชื้นในห้องได้โดยการทำให้อากาศเย็นลง และขจัดความชื้นออกไปโดยใช้สารทำความเย็น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความชื้น - เช่น การทำอาหาร การอาบน้ำหรือแช่น้ำนานๆ รวมถึงการตากผ้าในบ้านก็ทำให้ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นได้ หากสามารถลด หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ความชื้นสูงขึ้น คุณจะสามารถลดปริมาณความชื้นที่ถูกกักเก็บอยู่ภายในห้องหรือบ้านของคุณได้
ระดับความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณคือเท่าใด
ระดับความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามสถานที่ที่คุณอยู่อาศัย แต่แนวทางบางอย่างก็สามารถช่วยให้คุณรักษาระดับความสบาย และสุขภาพที่ดีภายในบ้านได้
หลักการทั่วไปคือ ระดับความชื้นภายในห้องสำหรับเด็กทารกควรอยู่ที่ประมาณ 30% ถึง 50% และไม่ควรสูงกว่า 60%5 โดยเด็ดขาด บางคนอาจรู้สึกสบายที่ระดับความชื้นสูงกว่า แต่ความชื้นสูงจะทำให้เชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ในขณะที่ความชื้นต่ำอาจทำให้ผิวแห้ง เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ และทำให้เฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้เสียหาย
โปรดจำไว้ว่าเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวอาจต้องการอุณหภูมิ และความชื้นในระดับที่แตกต่างกัน
คุณควรใช้เทอร์โมสตัทที่สามารถตั้งโปรแกรมให้ควบคุมระดับอุณหภูมิ และความชื้นในบ้านของคุณได้ และปรับค่าให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของคุณ
ระดับความชื้น และอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงฤดูร้อนสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในฤดูร้อน ระดับความชื้นจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความร้อน และความชื้นจากภายนอก ความชื้นสูงทำให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารน่าอึดอัด ช่วยให้เชื้อรา และแบคทีเรียเติบโตได้ดี ทั้งยังทำให้อาการภูมิแพ้ และปัญหาระบบทางเดินหายใจแย่ลง ระดับความชื้นโดยทั่วไปสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งอยู่ในสภาพอากาศร้อนตลอดทั้งปีควรอยู่ในช่วง 40% ถึง 50%6
หากต้องการควบคุมระดับความชื้นภายในบ้านในช่วงฤดูร้อน ให้ใช้เครื่องลดความชื้นเพื่อขจัดความชื้นส่วนเกินออกไปจากอากาศ คุณควรดูแลให้บ้านระบายอากาศได้ดีอยู่เสมอโดยการเปิดประตูและหน้าต่างเมื่ออากาศข้างนอกเย็นกว่า และมีความชื้นน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสะดวกของแต่ละคน การเปิดพัดลมเพดาน และเปิดประตูหน้าต่างในช่วงที่อากาศเย็นลงในแต่ละวันจะช่วยให้อากาศไหลเวียน และทำให้อุณหภูมิภายในอาคารลดลงได้
ระดับความชื้น และอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงฤดูหนาว
ระดับความชื้นในอาคารควรอยู่ระหว่าง 30% ถึง 50% ในช่วงฤดูหนาวใ7นขณะที่ระดับความชื้นลดลงเนื่องจากอากาศที่เย็น และแห้งจากด้านนอก ความชื้นต่ำอาจทำให้ผิวแห้ง เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ และทำให้เฟอร์นิเจอร์ และพื้นไม้เสียหาย
หากต้องการควบคุมระดับความชื้นภายในบ้านในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถใช้เครื่องทำความชื้นในการเพิ่มความชื้นให้อากาศ ในวันที่อากาศข้างนอกเย็นและแห้ง คุณควรปิดหน้าต่างไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นภายในอาคารลดลงอีก อย่างไรก็ตาม เมื่ออากาศข้างนอกเย็นและแห้งน้อยลง คุณสามารถเปิดหน้าต่างได้เพื่อระบายอากาศในบ้าน ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยให้อากาศสดชื่นอยู่เสมอ
ระดับอุณหภูมิภายในอาคารที่แนะนำในฤดูหนาวคือประมาณ 68°F (20°C) ในช่วงกลางวัน และต่ำกว่านี้เล็กน้อยในเวลากลางคืน8
เครื่องปรับอากาศพานาโซนิคช่วยให้ห้องของคุณสะอาด และสบายอยู่เสมอ
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับคุณ และลูกน้อยเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายาม นอกจากจะต้องรักษาระดับอุณหภูมิ และความชื้นในห้องของลูกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว คุณยังต้องแน่ใจด้วยว่าห้องจะต้องสบาย และมีอากาศที่สะอาด และนี่คือสถานการณ์ที่ผลิตภัณฑ์อย่างเครื่องปรับอากาศพานาโซนิคที่มีเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า nanoe™ X สามารถช่วยคุณได้
เทคโนโลยี nanoe™ X จะสร้างอนุมูลไฮดรอกซิลที่ถูกกักเก็บในน้ำเพื่อยับยั้งสารมลพิษในอากาศ และตามพื้นผิวสัมผัส เช่น เชื้อโรค PM2.5 ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ
เนื่องจากถูกผลิตออกมาในปริมาณมาก อนุมูลเหล่านี้จึงแพร่กระจายไปทั่วห้องได้อย่างรวดเร็ว และสามารถยับยั้งสารมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสมบัตินี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กทารก ซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่
ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องปรับอากาศพานาโซนิคยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ อีกมากมายขึ้นอยู่กับรุ่นที่คุณซื้อ เช่น มีอินเวอร์เตอร์เพื่อการประหยัดพลังงาน แอปอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสบาย และสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศได้จากนอกบ้าน รวมถึงการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยให้ทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องปรับอากาศพานาโซนิคที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นในตัวจะทำงานร่วมกับฟังก์ชัน iAUTO-X เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสำหรับการนอนหลับ ฟังก์ชันเหล่านี้ช่วยให้ระดับอุณหภูมิ และความชื้นมีความสมดุลอยู่เสมอ จึงทำให้สภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัยของคุณมีความสบายสูงสุด
ด้วยเคล็ดลับต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการสร้างระดับความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสมในบ้านของคุณ รวมถึงฟังก์ชัน iAUTO-X เซ็นเซอร์วัดความชื้น และเทคโนโลยี nanoe™ X ของพานาโซนิค คุณจึงวางใจได้ว่าลูกน้อยจะรู้สึกสบาย และมีสุขภาพที่ดี
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี nanoe™ X ที่นี่
1 https://www.epa.gov/mold/mold-course-chapter-2
2 https://iaq.works/humidity/indoor-humidity-level-why-is-the-40-60-range-ideal/
3 https://www.sleepfoundation.org/baby-sleep/best-room-temperature-for-sleeping-baby
4 https://gulfnews.com/parenting/child-health/baby-sleep-in-dubai-how-to-get-the-right-temperature-in-your-infantsroom-1.1586328365645
5 https://www.epa.gov/mold/mold-course-chapter-2
6 https://www.onehourheatandair.com/southeast-pa/about-us/blog/2019/december/what-is-the-ideal-humidity-in-winter-vs-summer-/
7 https://www.weatherstationadvisor.com/ideal-indoor-humidity-level-in-winter/
8 https://www.energy.gov/energysaver/programmable-thermostats
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง