พัฒนาการของกล้อง LUMIX GH6
Mikio Sakurai (การควบคุมระบบลดการสั่นไหวของภาพ)
Yujiro Kitagawa (การออกแบบภายนอก)
Yoshiaki Sugino (กลไกระบบลดการสั่นไหวของภาพ)
อุปสรรคที่ทำให้ลดขนาดกล้องไม่ได้
ในฐานะซีรีส์ GH ความคล่องตัวจึงเป็นสิ่งที่ลดทอนไม่ได้
GH6 ตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายในการให้คุณภาพภาพและประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับกล้องฟูลเฟรม แต่เนื่องจากเป็นกล้องแบบ Micro Four Thirds จึงต้องคงความคล่องตัวในเรื่องของขนาดที่กะทัดรัดเอาไว้ โดยจุดที่เราให้ความสำคัญ คือ ขนาดของซีรีส์ GH ที่เห็นได้ชัดจากด้านหน้า รวมถึงอุปสรรคหลักอย่างการจัดการความร้อน ระบบกันสั่น และการปรับมุมจอภาพด้านหลังที่ต้องมีความยืดหยุ่น
กล้องแบบ Micro Four Thirds มาพร้อมกับพัดลมใช่หรือไม่
ซีรีส์ GH ขึ้นชื่อเรื่องการบันทึกได้ไม่จำกัดเวลา แต่จริงๆ แล้ว เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การบันทึกระยะเวลานานๆ แต่คือการให้ผู้ใช้สามารถใช้งานกล้องได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าไฟล์วิดีโอจะหยุดกลางคันเพราะความร้อน หรือพลาดช่วงเวลาสำคัญไป วิดีโอที่มีความละเอียดสูงสามารถทำให้เกิดความร้อนได้ง่าย และด้วยสเปคที่สูงของโหมดวิดีโอใน GH6 จึงต้องออกแบบโครงสร้างที่ช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จึงเป็นที่มาของพัดลม หลายคนอาจจะแปลกใจที่เห็นพัดลมในกล้องแบบ Micro Four Thirds แม้ว่ากล้องฟูลเฟรมอย่าง LUMIX S1H ก็มีพัดลมด้วยก็ตาม ตอนแรกเราทดลองใช้ GH6 ในแบบที่ไม่มีพัดลม แต่เมื่อทดสอบแล้วพบว่า ถ้าใช้ระบบระบายความร้อนแบบธรรมดาเหมือนที่เคยทำมาในรุ่นก่อนๆ เราจะต้องมีพื้นที่ผิวขนาดใหญ่กว่า S1H เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีพอ เราจึงตัดสินใจติดตั้งพัดลมเพื่อลดอุณหภูมิ และหลังจากการทดสอบและวิเคราะห์หลายครั้ง เราก็สามารถหาจุดลงตัวที่ทั้งระบายความร้อนได้ดีและยังคงดีไซน์ที่กะทัดรัดได้
เซนเซอร์ระดับสูงผลิตความร้อนสูง!
ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวของกลไกระบบลดการสั่นไหวของภาพที่มีเซนเซอร์ติดตั้งอยู่นั้น ต้องมีโครงสร้างการระบายความร้อนเช่นกัน แต่ด้วยเซนเซอร์ที่ล้ำสมัยเช่นนี้ จึงมีการปล่อยความร้อนในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมขณะถ่ายภาพ เพื่อกระจายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงต้องเลือกจุดที่ดีที่สุดในการจัดการความร้อนและการเคลื่อนไหวของกลไก โดยที่กลไกต้องสามารถเคลื่อนไหวได้ราบรื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดการสั่นไหวของภาพ จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา จุดแข็งของเราคือความรู้ทางเทคนิคในการผสมผสานอุปกรณ์ กลไก และการควบคุมต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการบรรลุเป้าหมายนี้ แม้ว่าจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่เราก็สามารถพัฒนาระบบลดการสั่นไหวที่ทำให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดในประวัติศาสตร์ของ LUMIX ด้วยการลดการสั่นไหวได้ถึง 7.5 สต็อป ทั้งในระบบลดการสั่นไหวในตัวกล้องและ Dual I.S.2 โดยที่ยังคงรักษาขนาดของตัวกล้องให้กะทัดรัดเหมือนเดิม
กลไกการเอียงและการปรับมุมอิสระ — อุปสรรคที่ไม่คาดคิดในการลดขนาด
จอภาพที่สามารถเอียงและปรับมุมอิสระได้รับการตอบรับอย่างดีใน S1H จึงเป็นสิ่งที่เราต้องการนำมารวมไว้ใน GH6 ด้วยเช่นกัน แต่การใช้กลไกเดียวกันจะทำให้ขนาดตัวกล้องใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน ในการลดขนาด เราอาจเลือกที่จะใช้แค่ฟังก์ชันปรับมุมอิสระเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาถึงความสะดวกในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลดทอนได้ เราจึงตัดสินใจพัฒนากลไกใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น
S1H มีกลไกการคลิกที่ด้านบนของจอภาพ ซึ่งจะให้ความรู้สึกถึงการคลิกเมื่อมีการเอียง แต่กลไกนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่และเป็นอุปสรรคในการลดขนาด ที่จริงแล้ว เราพบว่ามีช่องว่างเล็กน้อยระหว่าง LCD กับตัวกล้อง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะติดตั้งกลไกที่สร้างแรงดันในช่องว่างนั้น เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกถึงการคลิกได้เหมือนเดิม เรามั่นใจว่าเราสามารถวางกลไกนี้ในช่องว่างดังกล่าวได้โดยไม่ทำให้กล้องหนาขึ้น
ส่วนปรับมุมอิสระของจอภาพใน S1H ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากและสามารถเปิดกว้าง 180° ได้อย่างราบรื่น เมื่อหันหน้าเข้าหาตัวแบบ ในอดีต การออกแบบจอภาพจะหันหน้าเข้าด้านในเล็กน้อย ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพแบบหันหน้ากัน แต่ในครั้งนี้ เราได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก โดยออกแบบให้จอภาพสามารถเปิดกว้าง 180° ได้เต็มที่ และยังสามารถเปิดได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน แม้ว่าจะเชื่อมต่อกับสาย HDMI หรือ USB ที่ด้านข้างก็ตาม
พัฒนาการของกล้อง LUMIX GH6
